สธ.จัดทำคู่มือชันสูตรพลิกศพอีโบลาเพื่อเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ

ข่าวทั่วไป Monday November 3, 2014 17:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า สธ.ยังคงเข้มงวดมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองผู้ที่เดินทางมากจากพื้นที่ระบาด ทั้งทางอากาศ ทางบก ทางเรือ และในชุมชนที่มีชาวต่างชาติในพื้นที่ระบาดอาศัยอยู่ในไทยทุกวัน แม้จนถึงวันนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ และเตรียมความพร้อมสถานพยาบาลในการดูแลรักษาหากพบผู้ป่วยต้องสงสัยหรือติดเชื้อไวรัสอีโบลา โดยอบรมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลผู้ป่วยและการป้องกันการติดเชื้อตามแนวทางการปฏิบัติงานของกรมการแพทย์ครบทั้ง 4 ภาค ตรวจมาตรฐานห้องแยกดูแลผู้ป่วย และห้องปฏิบัติการในโรงพยาบาลศูนย์ในต่างจังหวัด 15 แห่ง และใน กทม. 5 แห่ง

นพ.วชิระ กล่าวว่า ได้ตั้งคณะทำงานด้านวิชาการ ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญจากกรมวิชาการที่เกี่ยวข้องจัดทำร่างแนวทางการจัดการชันสูตรพลิกศพและการดูแลศพผู้เสียชีวิตที่สงสัยติดเชื้อไวรัสอีโบลา ทั้งกรณีเสียชีวิตในโรงพยาบาล และนอกโรงพยาบาล โดยจะเชิญแพทย์นิติเวช จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมกันพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากในการทำงานจะมีผู้เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่อื่นๆ เช่น ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย หน่วยชันสูตรศพ หน่วยนิติเวช จึงต้องมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน นำไปใช้ปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมีความปลอดภัยและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และได้ให้กรมอนามัยเร่งจัดทำคู่มือแนวทางการกำจัดขยะติดเชื้อ กรณีสงสัยติดเชื้อไวรัสอีโบลา เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้โรงพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วประเทศดำเนินการได้อย่างถูกต้อง ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่ชุมชน

นอกจากนี้ สธ.ได้จัดเตรียมข้อเสนอของบประมาณจากรัฐบาลในการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อใช้ในการดำเนินการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาของประเทศไทยอย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ยุติ ยังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในประเทศอาฟริกาตะวันตก 3 ประเทศ ได้แก่ กินี ไลบีเรีย และเวียร์ราลีโอน โดยองค์การอนามัยโลกรายงานจนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2557 พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาใน 6 ประเทศอาฟริกา สเปน และอเมริกา รวม 13,567 ราย เสียชีวิต 4,951 ราย

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาด หากมีไข้ขอให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง และติดต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตามระบบการตรวจคัดกรองที่ด่านควบคุมโรค หรือโทรปรึกษาสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ