(เพิ่มเติม) "ประวิตร"หารือหน่วยมั่นคงเช้านี้กรณีระเบิดกลางเมือง คาดวันนี้ชัดเจนขึ้น

ข่าวทั่วไป Monday February 2, 2015 12:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เช้าวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งจะมีการหารือประเด็นสถานการณ์ลอบวางระเบิดบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามเมื่อคืนนี้ โดย พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัย และเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดโดยเร็ว ดังนั้น วันนี้น่าจะมีความชัดเจนขึ้น

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายมั่นคงรายงานถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดกลางเมือง 2 ลูกเมื่อวานนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป เพราะอยู่ในชั้นสอบสวนสืบสวน เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและกระทบเชื่อมั่น จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ดีที่สุดก่อน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือการวางมาตรการไม่ให้กระทบกับประชาชนและความเชื่อมั่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามแผนด้วยการจัดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยมากขึ้น

"เจ้าหน้าที่กำลังทำงาน ซึ่งมีความคืบหน้าค่อนข้างดี รองนายกฯก็ให้กำลังใจว่าไม่ต้องตื่นตระหนักหรือกังวล เหตุการณ์นี้เป็นการเตือนความจำว่าความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่อยากให้ยึดโยงสาเหตุใด ๆ ในตอนนี้ หลักฐานมีค่อนข้างครบแล้วคิดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน ขอให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ให้เต็มที่ก่อน"นายปณิธาน กล่าว

นายปณิธาน กล่าวอีกว่า รัฐบาลทราบดีว่าต่างประเทศมองว่ากฎอัยการศึกเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเราก็มีมาตรการอื่น เช่น มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่อาจปรับมาใช้ได้ เนื่องจากมาตราดังกล่าวเพราะไม่ได้ออกแบบมาให้ดูแลความรุนแรง แต่เป็นการแก้ปัญหาเมื่อมีความขัดแย้งในระดับสูงเช่นในระบบตุลาการ หรือระบบบริหาร อย่างไรก็ตาม อาจนำมาดัดแปลงใช้ได้เพื่อเปิดพื้นที่ให้แสดงความเห็น และจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม แม้ว่ากฎหมายที่มียังใช้ได้อยู่และไม่ได้ใช้เต็มที่ ก็เพื่อทำให้ต่างประเทศสบายใจ

รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เช้าวันนี้โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะแถลงความคืบหน้าของเหตุการณ์ดังกล่าวในเวลาประมาณ 10.00 น.

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคงว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามหาผู้กระทำผิดของเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีความคืบหน้าในบางส่วน โดยได้รับรายงานว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการวางระเบิด 2 ลูกบริเวณใกล้หม้อแปลงไฟฟ้า ส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 2 คนส่วนสาเหตุนั้นยังไม่มีการสรุปที่ชัดเจนว่าเกิดจากเหตุใด ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งปัญหาทางการเมือง หรือเป็นฝีมือจากคนไม่หวังดีต่อบ้านเมือง

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า จากนี้จำเป็นต้องมีการเพิ่มมาตราการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้นในทุกพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก แต่ยอมรับว่าไม่มีรายงานทางการข่าวล่วงหน้าว่าจะมีการก่อเหตุขึ้น

"เราพยายามใช้มาตรการป้องกันมาโดยตลอด ทั้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวกัยความมั่นคงตลอด เจ้าหน้าที่ของห้างเราก็ได้เตือนตลอด แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น เราจำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มขึ้นเพื่อระวังป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก"พล.อ.ประวิตร กล่าว

ส่วนความจำเป็นในการคงกฏอัยการศึกเพื่อดูแลความปลอดภัยนั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ทุกคนคงสามารถประเมินได้ว่าสมควรจะคงการบังคับใช้กฏอัยการศึกไว้หรือไม่ ส่วนกระแสให้มีการเปลี่ยนการใช้กฏอัยการศึกมาใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ได้พิจารณาในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่าการแสดงความคิดเห็นต่างสามารถทำได้ แต่ไม่ควรแสดงออกในลักษณะที่นำไปสู่ความรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต ส่งที่เกิดขึ้นทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในสายตาต่างชาติ

ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาลนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตการรักษาความปลอดภัย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทำเนียบสามารถดูแลได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ