ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบในหลักการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุด ซึ่งประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการฯ ด้านการบริหารโครงการ ซึ่งจะมีอำนาจหน้าที่ในการศึกษาความเหมาะสม กำกับ ติดตาม และให้ข้อเสนอการปฏิบัติงานแก่อนุกรรมการต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและวัตถุประสงค์โครงการรวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการอำนวยการและคณะรัฐมนตรีทราบ
2.คณะอนุกรรมการฯ ด้านการออกแบบและภูมิสถาปัตย์ มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำองค์ประกอบของการก่อสร้าง กำกับการออกแบบ กำหนดเวลา แผนปฏิบัติการ และงบประมาณในการก่อสร้างให้เหมาะสม คุ้มค่า 3.คณะอนุกรรมการฯ ด้านกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่ในการศึกษาระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ 4.คณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์ มีอำนาจหน้าที่ในการสร้างความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินโครงการต่อสาธารณะ เพื่อดำเนินการด้านต่างๆ และคณะอนุกรรมการแต่ละชุดสามารถแต่งตั้งคณะทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะได้นำเสนอให้รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบลงนามต่อไป
สำหรับการดำเนินการตลอดเส้นทาง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาระยะทางรวม 14 กิโลเมตร จะผ่านวัด 8 แห่ง ท่าเรือ 36 แห่ง โรงแรม/ร้านอาหาร 6 แห่ง สถานที่สำคัญขนาดใหญ่ 19 แห่ง โดยมีประชาชนรุกล้ำพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่ง จำนวน 268 หลังคาเรือน ซึ่งการรุกล้ำพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายจำเป็นจะต้องมีการรื้อ ย้าย บ้านเรือนและประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อจัดระเบียบตามดำริของนายกรัฐมนตรีในการคืนพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จะมีการหารือแนวทางดำเนินการตลอดจนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการโครงการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันนี้ และจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
สำหรับโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเกิดขึ้นตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศให้เกิดทัศนียภาพสวยงาม ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า เพื่อการพักผ่อน การออกกำลังกาย การจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพและนันทนาการ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างสัญลักษณ์แห่งใหม่(Landmark) ให้แก่กรุงเทพมหานครและประเทศไทย