ส่วนการป้องกันโรคมือ เท้า ปาก กรมควบคุมโรคขอความร่วมมือศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็ก และโรงเรียนอนุบาล ตรวจคัดกรองเด็กนักเรียนทุกวัน หมั่นทำความสะอาดเครื่องใช้ ของเล่น สนามเด็กเล่น ให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด ถ้าพบเด็กป่วยหรือสงสัย ต้องแยกเด็กป่วยที่เป็นโรคมือ เท้า ปาก ออกจากกลุ่มเพื่อน โดยให้หยุดพักที่บ้านเป็นเวลา 1 สัปดาห์จนกว่าจะหายเป็นปกติ ส่วนผู้ปกครองสามารถดูแลบุตรหลานได้โดยการรักษาสุขอนามัยของบุตรหลาน ช่วยกันสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิด หากพบเด็กมีไข้ มีแผลในปาก มีตุ่มน้ำใสที่มือ เท้า ควรให้เด็กหยุดเรียน รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
“ทั้งนี้โรคมือ เท้า ปาก ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาชาแก้เจ็บแผลในปาก ผู้ป่วยควรนอนพักผ่อนให้มากๆ ผู้ดูแลควรเช็ดตัวให้เด็กเพื่อลดไข้เป็นระยะ ให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารอ่อนๆ ไม่ร้อนจัด ดื่มน้ำ นม และน้ำผลไม้แช่เย็น เพื่อช่วยลดอาการเจ็บแผลในปาก ถ้าเป็นเด็กอ่อน อาจต้องป้อนนมให้แทนการดูดจากขวด อย่างไรก็ตามโรคนี้มักไม่รุนแรงและไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่เชื้อไวรัสบางชนิด อาจทำให้มีอาการรุนแรงได้ หากมีข้อสงสัยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422" นพ.โสภณ กล่าวปิดท้าย
ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -22 มิ.ย.58 พบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก จำนวน 13,075 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในวัยเด็กเล็ก (อายุ 1-3 ปี) สูงถึง 72%