นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอร้องเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนอย่าออกมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล แต่ควรให้ข้อมูลกับภาครัฐเพื่อจะได้วางแนวทางการช่วยเหลือ ทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งที่ผ่านมาได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้เข้าใจว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่มีเพียงน้ำในเขื่อนและน้ำบาดาลเท่านั้น รวมถึงสภาพอากาศที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้
ส่วนการขุดเจาะน้ำบาดาลและการขุดบ่อน้ำนั้นรัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ไม่มีน้ำ มีแต่เพียงน้ำในเขื่อนเท่านั้น ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำโขง และแม่น้ำสาละวินก็ลดลงทั้งหมด อีกทั้งฝนไม่ตกลงมา ซึ่งส่งผลทำให้ปริมาณน้ำน้อยลง แต่รัฐบาลได้พยายามวางแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือถึงการตั้งกระทรวงน้ำ แต่จะใช้แนวทางบูรณาการการทำงานของทุกกระทรวง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกัน