รัฐฯเร่งขุด"บ่อจิ๋ว"ทั่วปท.กักเก็บน้ำใช้อุปโภคบริโภคตลอดปีรับมือปัญหาภัยแล้ง

ข่าวทั่วไป Saturday November 21, 2015 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ “ขุดแหล่งน้ำขนาดเล็กในไร่นานอกเขตชลประทาน” หรือ “บ่อจิ๋ว” ทั่วประเทศเพื่อรับมือปัญหาการ
ขาดแคลนน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ให้ประชาชนมีแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเพาะปลูก ตามนโยบายของ
รัฐบาลที่ต้องการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
โดยในปีงบประมาณ 2558 นี้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 356 ล้านบาท สำหรับการขุดบ่อจิ๋วเพิ่มอีก 20,000 บ่อ ซึ่งแต่ละ
บ่อมีค่าใช้จ่าย ในการขุด 20,300 บาท แบ่งเป็นรัฐบาลสนับสนุน 17,800 บาท และเกษตรกรเจ้าของที่ดินสมทบอีก 2,500
บาท นับตั้งแต่เดือนต.ค.57-ก.ย.58 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการขุดบ่อจิ๋วไปแล้วทั่วประเทศจำนวน 56,206 บ่อ ทั้งนี้ บ่อจิ๋ว
สามารถจุน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคได้ 1,260 ลูกบากศ์เมตร (ลบ.ม.)ใช้เลี้ยงปลา และปลูกพืชผักสวนครัวบริเวณขอบบ่อเพื่อบริโภคใน
ครัวเรือน ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนได้อีกทางหนึ่งด้วย
“ท่านนายกฯ ห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่นอกเขตชลประทานที่ประสบปัญหาภัยแล้ง
ต่อเนื่อง จึงติดตามความคืบหน้าของโครงการเป็นระยะพร้อมกำชับให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย
เพื่อพี่น้องประชาชนได้มีแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและการเพาะปลูก ย้ำมาตรการช่วยเหลือนี้จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องใน ทุก
พื้นที่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในระยะยาว"พลตรีสรรเสริญ กล่าว
พลตรีสรรเสริญ กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะวางแผนและดำเนินการเพื่อรับมือกับปัญหาภัยแล้งในหลายมาตรการ ทั้งปฏิบัติการ
ฝนหลวงเพื่อเติมน้ำในเขื่อน การสร้างแก้มลิงเพื่อดึงน้ำให้อยู่ในพื้นที่นานที่สุด วางแผนการระบายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและ
รักษาระบบนิเวศน์อย่างเหมาะสม รวมถึงการขุดบ่อจิ๋วทั่วประเทศแล้วก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือภาคประชาชนที่ต้องตระหนักถึงความ
สำคัญของน้ำและปัญหาเรื่องน้ำ ต้องเข้าใจว่าปริมาณน้ำในประเทศของเรานั้นขึ้นอยู่กับปริมาณฝนเป็นหลัก ยิ่งในปัจจุบันสภาพภูมิ
อากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไปส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่เหนือเขื่อนลดลงเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงหรือฝนแล้ง จึงขอความร่วมมือ
จากประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัด ไม่ปล่อยของเสียลงในแหล่งน้ำ และเกษตรกรควรปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย เพื่อช่วย
บรรเทาวิกฤตภัยแล้งในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ