ส.อ.ท.จัดทำแนวทางบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรม นำร่อง 14 จ.ภาคกลาง

ข่าวทั่วไป Monday October 3, 2016 15:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการดำเนินโครงการศึกษาและจัดทำแนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมแบบบูรณาการและมีส่วนร่วม ที่เกิดจากความร่วมมือ ระหว่าง กองทุนพัฒนาน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และสถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในครั้งนี้ว่า จะเป็นโครงการหนึ่งที่ช่วยแก้ไขปัญหาด้านการบริหารจัดการน้ำและตอบสนองความต้องการของแต่ละพื้นที่ได้อย่างตรงจุด เนื่องจากผ่านกระบวนการรับฟังข้อมูลและข้อคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ เพื่อนำมาใช้พัฒนาแนวทางในการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน

อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมและสนับสนุนภาครัฐให้มีข้อมูลหรือแนวทางที่สามารถนำไปใช้ประกอบการวางนโยบายหรือแผนยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งก็สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) พ.ศ. 2556-2561 ในเรื่องการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Growth) ในประเด็นหลักที่ 21 การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการบริหารจัดการน้ำ โดยเน้นการลงทุนด้านการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์ พัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการ (Flagship Project) ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เป้าหมายมีแหล่งน้ำที่มีการอนุรักษ์ ปรับปรุง ฟื้นฟู และพัฒนา เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่มีปริมาณเพียงพอ รวมทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการบริหารจัดการน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินอย่างบูรณาการ มีประสิทธิภาพ เป็นธรรมและยั่งยืน โดยมีกลยุทธ์ที่สำคัญของกระทรวงฯ คือ การสร้างกลไกการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้มีการใช้ทรัพยากรน้ำเป็นฐานในการพัฒนาประเทศและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน รวมทั้งการพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มน้ำต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการกระจายน้ำ บูรณาการน้ำผิวดิน ใต้ดิน และกำหนดมาตรฐานพัฒนาระบบน้ำสะอาด โดยจากทั้งยุทธศาสตร์ และแผนการดำเนินงานของกระทรวงฯ รวมถึงโครงการศึกษาและจัดทำแนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมฯ ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะสามารถนำมาช่วยในการบริหารจัดการน้ำของประเทศให้มีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาด้านการบริหารจัดการน้ำได้อย่างยั่งยืนต่อไป

ด้านนายสุวัฒน์ เปี่ยมปัจจัย รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า กองทุนพัฒนาน้ำบาดาล (กพน.) ได้สนับสนุนงบประมาณให้กับ สถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน ส.อ.ท. ในการดำเนินโครงการศึกษาและจัดทำแนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมแบบบูรณาการและมีส่วนร่วม ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 ในการช่วยเหลือและอุดหนุนกิจการใดๆ ที่เกี่ยวกับการทดแทนและอนุรักษ์แหล่งน้ำบาดาล รวมทั้งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และแผนแม่บทเพื่อการพัฒนาและอนุรักษ์น้ำบาดาลฯ ในการพัฒนาและยกระดับการจัดทำข้อมูลพื้นฐานด้านทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรน้ำบาดาล รวมทั้งการควบคุม กำกับ ดูแล ทรัพยากรน้ำบาดาล และสิ่งแวดล้อมโดยประชาชนมีส่วนร่วม

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและรวบรวมข้อมูลสถานการณ์การใช้น้ำ นโยบายและยุทธศาสตร์ของภาครัฐ การวิเคราะห์ศักยภาพแหล่งน้ำ ปัญหาและความต้องการการใช้น้ำของภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่เป้าหมาย 14 จังหวัดภาคกลาง ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชัยนาท นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี และอ่างทอง เพื่อประกอบการจัดทำแนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมอย่างบูรณาการที่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ โดยเกิดจากการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ 14 จังหวัด โดยผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินโครงการฯ คือ สามารถทำให้ทราบสถานการณ์และข้อมูลการใช้น้ำของภาคส่วนต่างๆ และได้แนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่เป้าหมาย 14 จังหวัด ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน รวมทั้งเกิดเครือข่ายความร่วมมือในการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน “การดำเนินโครงการศึกษาและจัดทำแนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมแบบบูรณาการและมีส่วนร่วม เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 และจะสิ้นสุดโครงการในเดือนมกราคม 2561 รวมระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งหมด 18 เดือน โดยมีขอบเขตการดำเนินโครงการ คือ ศึกษา รวบรวมข้อมูล ทบทวนรายงานการศึกษา วิจัยยุทธศาสตร์ การพัฒนา แผนนโยบายที่เกี่ยวข้องของพื้นที่เป้าหมาย 14 จังหวัด จัดทำแนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมอย่างบูรณาการและมีส่วนร่วม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำบาดาล โดยนำหลักการ 3 Rs (Reduce, Reuse , Recycle) มาร่วมประยุกต์ใช้ รวมถึงประชาสัมพันธ์และนำเสนอผลการดำเนินงานและแนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมอย่างบูรณาการ” นายสุวัฒน์ กล่าว

นายบวร วงศ์สินอุดม รองประธานส.อ.ท. กล่าวว่า ปัจจุบัน สถาบันน้ำฯ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาน้ำบาดาลอย่างต่อเนื่อง ในการดำเนินโครงการศึกษาและจัดทำแนวทางการบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมแบบ บูรณาการและมีส่วนร่วม ในพื้นที่เป้าหมาย 14 จังหวัด ภาคกลาง ที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (2560-2564) โดยผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างเดือนกรกฎาคม 2559 – มกราคม 2561 ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าว สภาอุตสาหกรรมฯ มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้สถานประกอบการอุตสาหกรรมมีการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมกันพัฒนาการบริหารจัดการน้ำของภาคอุตสาหกรรมให้สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบและถูกต้องตามหลักการ โดยให้ความสำคัญกับการนำหลักการ 3 Rs (Reduce Reuse Recycle) มาประยุกต์ใช้ในการประกอบกิจการ และนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ