กรมชลฯ คาดเริ่มลดการระบายน้ำจาก 3 เขื่อนใหญ่ 15 ต.ค.หากปริมาณฝนตกไม่ส่งผลกระทบ

ข่าวทั่วไป Friday October 14, 2016 15:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศว่า ในช่วงวันที่ 14 – 17 ตุลาคม 2559 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 18–19 ตุลาคม 2559 บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น

โดยหากภายหลังจากวันที่ 14 – 15 ตุลาคม 2559 สภาพฝนที่ตกอยู่ในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสัก อยู่ในเกณฑ์ไม่มีผลกระทบ กรมชลประทานจะพิจารณาปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระราม 6 ต่อไป

สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันปริมาณน้ำที่อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ และแม่น้ำสะแกกรัง ลดลงเหลือ 2,157 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และ 61 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีตามลำดับ ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน จะลดระดับน้ำหน้าเขื่อนลงให้อยู่ในระดับ +15.50 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) เพื่อไว้รองรับสถานการณ์น้ำ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกเพิ่มอีกในช่วงวันที่ 14 - 17 ตุลาคม 2559 นี้

สำหรับสภาพน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 883 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 92 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำไหลลง 52 ล้านลูกบาศก์เมตร มีการระบายน้ำในอัตรา 60.52 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนพระราม 6 ได้ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก จะไหลมารวมกันบริเวณอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ ปริมาณน้ำลดลงเหลือ 2,393 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(เมื่อวานนี้ 2,457 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ไม่ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำล้นคันกั้นน้ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ