พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานนโยบายรัฐบาล จ.สุพรรณบุรีว่า จ.สุพรรณบุรีเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในเรื่องน้ำ ระบบชลประทานที่ดี ดังนั้นจึงอยากให้เกษตรกรปรับตัวคิดถึงแนวทางการทำเกษตรให้ได้ประสิทธิภาพ ทั้งปริมาณและคุณภาพ เช่น การปลูกข้าวอินทรีย์ และเกษตรผสมผสาน ขณะที่รัฐบาลไม่สามารถอุดหนุนราคาข้าวได้ทั้งหมดเหมือนที่ผ่านมา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นการบิดเบือนกลไกลตลาด และผิดหลักการขององค์การการค้าโลก (WTO)
ส่วนพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยนานนับเดือนไม่สามารถระบายน้ำได้ ตนเองได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องขุดเจาะพื้นที่เก็บน้ำไว้ชั้นใต้ดิน เพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับดิน ขณะเดียวกันอยากให้ประชาชนโหลดแอปพลิเคชั่นข้อมูลของรัฐบาล เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับชาวนามากที่สุด เพราะพื้นเพตนเองเคยเป็นเกษตรกร เป็นชาวนามาก่อน และนับจากนี้จะส่งเสริมให้มีการปลูกข้าวพันธุ์ใหม่ และปลูกข้าวอินทรีย์ เพื่อยกระดับการขายข้าว และการตลาด ซึ่งพบว่า จ.สุพรรณบุรีสามารถปลูกข้าวน้ำตาลน้อย หรือพันธุ์ กข.43 ก่อนจะพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น ขณะนี้สามารถผลิตข้าวกลิ่นใบเตยได้ จึงอยากให้พัฒนาต่อ เช่น ข้าวกลิ่นช็อคโกแลต หรือกลิ่นสตอเบอรี่ รวมถึงแปรรูปเป็นเครื่องสำอางค์ ที่ตนเองได้ใช้อยู่ ไม่กลัวว่าจะเป็นอันตราย เพราะเชื่อว่าทำงานด้วยความตั้งใจ ความดีจะช่วยคุ้มครอง และให้คำมั่นชาวนาจะให้กระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์เดินหน้าสานต่อโรงเรียนชาวนาต่อไป พร้อมกันนี้ให้พัฒนาการทำนาข้าวให้เป็นการท่องเที่ยวและบริการ สร้างเรื่องราวให้น่าติดตาม และน่าสนใจ นำมาสู่การเชื่อมโยงธุรกิจในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน
ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังจ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ทุ่งรับน้ำบ้านแพน ต.บ้านแพน อ.เสนา ซึ่งเป็นแก้มลิงตามธรรมชาติ ขนาดเนื้อที่ 5,780 ไร่ โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานไถกลบตอซังข้าว เพื่อทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ จากนั้นเปิดประตูระบายน้ำ ตามโครงการ "ปล่อยน้ำเข้านา ปล่อยปลาเข้าทุ่ง" ซึ่งเกษตรกรร้องขอให้ผันน้ำเข้าแก้มลิงตามธรรมชาติ เพื่อกำจัดวัชพืช และศัตรูพืช
นอกจากนี้ จะร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคกลาง ทั้งหมด 16 จังหวัด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามงานนโยบายของรัฐบาล
ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าทิศทางการพัฒนาภาคกลาง สู่มหานครที่ทันสมัยและเป็นฐานการเชื่อมโยงประเทศไทย สู่เส้นทางขนส่ง 2 ฝั่งทะเล รวมทั้งจะเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก