นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างความรู้และความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับการดูแลป้องกันตัวเองจากฝุ่นละออง หลังพบว่าในระยะนี้พื้นที่ กทม.และปริมณฑล มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมทั้งกำชับให้แก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด
สำหรับข้อควรปฎิบัติของประชาชนคือ จะต้องติดตามข่าวสารจากกรมควบคุมมลพิษอย่างใกล้ชิด โดยพื้นที่ที่มีฝุ่นละลองหนาแน่นขอให้ประชาชนอยู่ภายในบ้าน หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยคุณภาพดีที่สามารถป้องกันฝุ่นได้ในระดับสูง ส่วนหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาที่มีขายทั่วไปนั้นก็สามารถป้องกันได้ดีระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ ควรหมั่นสังเกตอาการทางสุขภาพเบื้องต้น เช่น เมื่อมีอาการไอหรือระคายเคืองตา มากผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า ได้ประสานงานกับ กทม. และ 5 จังหวัดปริมณฑล เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด กทม.ได้สั่งการให้ทุกเขตกวาดล้างถนนอย่างเข้มข้นทุกวัน จัดอุปกรณ์ฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่น ตรวจวัดควันดำ ควบคุมฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง รวมทั้งประสานกับกรมฝนหลวง และการบินเกษตรตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อทำฝนเทียมในพื้นที่เสี่ยงในวันที่มีสภาพอากาศเอื้ออำนวย
รายงานข่าว แจ้งว่า ในช่วงเที่ยงวันนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.จะประชุมด่วนร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน
ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา พื้นที่ริมถนน ตรวจวัดได้ระหว่าง 60-81 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 18 พื้นที่ สาเหตุเกิดจากสภาพอากาศและการจราจร ส่วนพื้นที่ทั่วไป (ห่างจากริมถนนสายหลัก) ตรวจวัดได้ 49-79 มคก./ลบ.ม. อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 16 พื้นที่ สาเหตุเกิดจากสภาพอากาศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองสูง ซึ่งเป็นอันตรายต่อประชาชน พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบต้นตอด้วยว่ามาจากที่ไหน ขณะเดียวกันขอให้ประชาชนสวมหน้ากากก่อนออกจากบ้านหากเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง พร้อมมอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร บูรณาการร่วมกัน
"ขณะนี้เตรียมพร้อมหมดแล้ว เพียงแต่มีปัญหาคืออยู่ในพื้นที่ใครพื้นที่มัน วันนี้จึงต้องบูรณาการร่วมกันถือเป็นปัญหาที่จะต้องดูแลสุขภาพของประชาชน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนการทำฝนหลวงเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการวางแผนที่จะดำเนินการเช่นกัน แต่ต้องใช้เวลาและตรวจสอบความชื้นในอากาศที่เหมาะสม สำหรับต้นตอของฝุ่นละอองที่เป็นพิษนั้นมาจากโรงงานอุตสาหกรรม การจราจร การเผาไร่นา ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากทุกคน ดังนั้นทุกคนจึงต้องช่วยกันแก้ปัญหาไปพร้อมกับรัฐบาล เพราะรัฐบาลจะเป็นแกนนำหลักแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยตรง ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวจะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุให้ได้ก่อน