พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองพิษ PM 2.5 ว่า ได้นำแผนปฏิบัติการของกรมควบคุมมลพิษมาพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยพบว่าสถานการณ์ภาพรวมดีขึ้น เบื้องต้นจะเน้นดูแลเป้าหมายที่อ่อนแอก่อน คือ เด็ก และสตรีมีครรภ์ รวมถึงมีมาตรการเสริมเพิ่มเติม เช่น ลดการใช้ยานพาหนะ ลดการเผา ซึ่งยอมรับว่าบางครั้งการบังคับใช้กฏหมายเป็นเรื่องยาก อาจกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน จึงจะเน้นการขอความร่วมมือจากประชาชน
หากแบ่งค่าฝุ่นละอองในระยะแรกก่อนเกิดวิกฤติ ซึ่งค่าฝุ่นละอองจะอยู่ที่ประมาณ 50-100 ไมโครกรัม ได้สั่งการเร่งแก้ปัญหาไปแล้ว แต่หากค่าฝุ่นละอองเกิน 100 ไมโครกรัม จะมีมาตรการที่เข้มงวดและสั่งการในระดับประเทศลงไป ซึ่งเคยทำมาแล้วในบางพื้นที่และได้รับผลดี ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกฝ่าย และการบังคับใช้กฏหมายที่เหมาะสม โดยให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ซึ่งก็ต้องค่อยๆแก้กันไป
ขณะที่กระทรวงต่างๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนการดูแลสุขภาพ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน และเตรียมแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนทุกจังหวัด
กระทรวงคมนาคม ตำรวจ กทม. กระทรวงมหาดไทย ขอความร่วมมือผู้ประกอบการและประชาชน งดการเผาทุกชนิด และตรวจสภาพรถยนต์ ตั้งจุดตรวจรถควันดำ หากพบจะงดใช้รถก่อน และขอความร่วมมือพื้นที่ก่อสร้างลดการก่อฝุ่นและมลพิษทางอากาศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้เตรียมเครื่องฉีดพ่นละอองไอน้ำและกรมฝนหลวงฯ ซึ่งพร้อมปฏิบัติการทันทีในพื้นที่เสี่ยงค่าฝุ่นละอองสูงขึ้น ส่วนละอองฝุ่นที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านได้ประสานงานแก้ปัญหาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าบางอย่างอาจไม่เร็วมากนัก ซึ่งขอให้ประชาชนระมัดระวังตนเอง โดยยืนยันรัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างเต็มที่