นายกฯ ห่วงปัญหาน้ำท่วม-ภัยแล้ง กำชับจนท.-กองทัพเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย/เตรียมตรวจภัยแล้งชัยภูมิ 25 ธ.ค.

ข่าวทั่วไป Thursday December 19, 2019 18:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส อย่างใกล้ชิด และแสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักทั้งแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำสุไหงโก-ลกเพิ่มสูงขึ้น จนเกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนระลอก 2

"นายกฯ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือนและกองทัพ เร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ ตามแผนที่วางไว้ให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อคลี่คลายปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งล่าสุด มีรายงานพื้นที่ประสบภัย 5 อำเภอ และมีจำนวนผู้ประสบภัยกว่า 37,000 คน" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ในวันพุธที่ 25 ธ.ค.นี้ เพื่อตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างเร่งด่วน ซึ่งปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นขณะนี้ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งทั่วประเทศแล้ว 11 จังหวัด และร่วมกับกองทัพจัดชุดออกสำรวจข้อมูลน้ำ แยกเป็นน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร หากพบพื้นที่ใดขาดแคลนน้ำ จะได้เร่งออกแจกจ่ายน้ำให้แก่ประชาชน รวมทั้งยังได้ขุดบ่อและนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยเน้นพื้นที่นอกเขตชลประทานเป็นพิเศษ

"ขอความร่วมมือเกษตรกร ให้เพาะปลูกหรืองดเว้น ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ส่วนประชาชนทั่วไป ควรใช้น้ำอย่างประหยัด" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 2 จังหวัด คือ จังหวัดนราธิวาส และยะลา ครอบคลุมพื้นที่รวม 8 อำเภอ 34 ตำบล 148 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 9,068 ครัวเรือน 40,652 คน โดยสถานการณ์ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว ซึ่ง ปภ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

สำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดนราธิวาสมีจำนวน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสุคิริน อำเภอแว้ง อำเภอจะแนะ อำเภอศรีสาคร และอำเภอรือเสาะ รวม 24 ตำบล 148 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 8,336 ครัวเรือน 37,171 คน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนที่จังหวัดยะลามีจำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา และอำเภอกรงปินัง รวม 10 ตำบล 27 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 732 ครัวเรือน 3,481 คน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเช่นกัน โดยภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มทรงตัว ส่วนระดับน้ำในจังหวัดยะลามีแนวโน้มลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ