พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวในระหว่างลงพื้นที่พบปะชาวนราธิวาสถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ ซึ่งต้องยอมรับว่าปัญหาหลายอย่างเกิดจากประชาชน ซึ่งปัญหาเกิดจากยานพาหนะกว่า 72% โดยเฉพาะรถยนต์เก่าที่สันดาปไม่สมบูรณ์ปล่อยควันพิษ การเผาในที่โล่งแจ้ง โรงงานและอื่น ๆ ซึ่งได้มีความพยายามในการใช้กฎหมายรณรงค์ให้ช่วยกันดูแลเครื่องยนต์ เปลี่ยนท่อไอเสีย แต่จะโทษประชาชนไม่ได้ เพียงแต่ต้องอาศัยความร่วมมือ อีกทั้งกฎหมายก็มีอยู่ แต่จะให้ไปดำเนินคดีทั้งหมดคงไม่ได้ เพราะจะสร้างความเดือดร้อน เพียงแต่อยากขอความร่วมมือให้ช่วยรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการเผาวัชพืช ต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไร เผาให้น้อยลงหรือไม่เผาเลย
ขณะเดียวกันก็พยายามดูแลสิ่งแวดล้อมควบคู่ด้วย เช่น โครงการไม้มงคล คนอยู่ร่วมกับป่า การส่งเสริมการปลูกไม้ 58 ชนิด ซึ่งสามารถประเมินมูลค่าเป็นหลักทรัพย์สำหรับการกู้ยืม และขออนุญาตตัดขายได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นการแก้ปัญหาเชิงบูรณาการที่มาจากหลายงานด้วยกันที่ทำให้เกิดปัญหา ทุกเรื่องมีปัญหาอย่างนี้หมด ทั้งปัญหาน้ำท่วมฝนแล้ง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาการก่อสร้างแล้วไปกีดขวางทางน้ำ หรือแหล่งน้ำไม่ได้รับการขุดลอก ทางน้ำมีการเปลี่ยนแปลง
"เราต้องแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างอย่างบูรณาการ ใช้ทางกฎหมายและวิธีการที่มีก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำเช่นนี้มาก่อน นอกจากรัฐบาลนี้และมีการทำต่อเนื่อง"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้เข้ามาคลี่คลายสาเหตุของปัญหาต่าง ๆ และเชื่อมโยงการทำงานของทุกส่วนราชการ การแก้ไขปัญหามีทั้งเหนื่อยและหนักใจพอสมควร แต่เป็นความเดือดร้อนของคนทั้งประเทศ และความเดือดร้อนก็ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง มีทั้งปัญหาเดิม และปัญหาใหม่ที่เข้ามาแทรก ส่งผลให้เกิดผลกระทบทั่วไป ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน
"ทุกคนเหมือนเป็นคนในครอบครัวของผมที่ใหญ่มากมี 70 ล้านคน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด เชื้อชาติใด ล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น จำไว้ที่นี้คือแผ่นดินไทย จะแบ่งแยกไม่ได้ เราต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาของพวกเราเอง อย่าให้ใครมาแก้ให้พวกเรา ไปเอาต่างประเทศมาช่วยแก้ เพราะที่นี่คือบ้านเมืองของเรา แล้วยิ่งปัญหาที่มีความกระทบกระทั่ง ความขัดแย้งไม่เข้าใจกัน ก็ต้องพยายามทำให้เขาเข้าใจมากขึ้น เรามียุทธศาสตร์เยอะแยะ"