(เพิ่มเติม) บอร์ด สวล.นัดประชุม 23 ม.ค.กำหนดมาตการแก้ฝุ่น PM 2.5 นายกฯ ย้ำยกระดับมาตรการไปทีละขั้น

ข่าวทั่วไป Tuesday January 21, 2020 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน หรือ PM. 2.5 ว่า การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในวันที่ 23 ม.ค.นี้จะมีการพิจารณากำหนดมาตรการต่างๆ ออกมาอย่างเป็นรูปธรรมในการแก้ปัญหา ซึ่งรัฐบาลจะใช้มาตรการที่เหมาะสม หากแก้ไม่ได้ก็จะยกระดับมาตรการให้มีความเข้มข้นขึ้น เพื่อแก้ปัญหาทีละขั้นตอน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่วว่า ปัญหาเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งมาตรการต่างๆที่ออกมาจะรุนแรงหรือไม่ ต้องดูที่ข้อมูลและเหตุผล และมาตรฐานที่กำหนดไว้ ซึ่ง เรื่องนี้ ครม.ได้อนุมัติแผนแม่บทไปแล้วก่อนหน้านี้ ที่ประกอบด้วยแผนเฉพาะหน้า ระยะกลาง และระยะยาว ขณะที่วันนี้ค่าฝุ่นละอองในแต่ละพื้นที่ระดับความรุนแรงไม่เท่ากัน จึงจะต้องมีมาตรการเฉพาะดูแลในแต่ละพื้นที่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ามาตรฐานของฝุ่นที่จะต้องแก้ปัญหาตามขั้นตอน โดยค่าฝุ่นระดับไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) หรือระดับที่ยังไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ก็ใช้มาตรการปกติในการดูแล ส่วนระดับ 51-75 มคก./ลบ.ม.อยู่ในระดับที่ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด และผู้ว่าราชการ กทม. จะต้องเข้มงวดมาตรการลดปัญหาในพื้นที่

ขณะที่หากสูงถึง 76-100 มคก./ลบ.ม.ก็จะต้องเข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะปริมาณรถยนต์ที่เข้า-ออกในพื้นที่ หรือการกำหนดวันในการใช้รถ และหากค่าฝุ่นเกิน 100 มคก./ลบ.ม.รัฐบาลก็ต้องมีมาตรการควบคุมอย่างเต็มที่ หรือหยุดการใช้รถยนต์ทั้งหมดในพื้นที่แล้วให้มาใช้รถสาธารณะแทน หรือห้ามใช้รถที่มีอายุเกิน 10 ปีวิ่งบนท้องถนน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เข้าใจปัญหาของทุกฝ่าย แต่หากไม่ร่วมมือและร่วมกันดูแลปัญหาก็คงแก้ไขได้ยาก ซึ่งวันนี้แก้ปัญหาทั้งการไปดูในเรื่องของการก่อสร้างจะต้องใช้ผ้าคลุมฝุ่น รวมถึงการล้างล้อรถ

สำหรับข้อเรียกร้องให้ใช้มาตรการที่รุนแรงนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่รัฐบาลจะใช้มาตรการใดต้องคำนึงถึงผลกระทบรอบด้าน เพราะปัญหาไม่ได้เกิดจากกรณีใดกรณีหนึ่ง เช่น ควันดำจากรถทุกประเภทก็สามารถสร้างปัญหาฝุ่นละอองได้ ไม่ใช่เพียงแค่รถบรรทุกเท่านั้น แต่เรื่องของรถควันดำก็ได้สั่งการเข้มงวดตรวจสอบอย่างเต็มที่ ขณะที่มาตรการลดการเผาก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม ในส่วนของสถานศึกษาก็ขึ้นอยู่กับผู้อำนวยการของโรงเรียนพิจารณาว่าจะหยุดเรียนหรือไม่ แต่จะต้องมีการชดเชยการเรียนการสอน

ส่วนกรณีที่ที่ดารา นักแสดง และประชาชนต่างตำหนิมาตรการที่ออกมานั้น นายกรัฐมนตรี เห็นว่า ขอให้เปิดใจรับฟังกันบ้าง และรับรู้การทำงานของรัฐบาล ว่า ทุกอย่างมันต้องคำนึงถึงภาพรวมทั้งหมด ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือ ทุกคนต้องมีจิตสำนึกรวมกันดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) เห็นชอบในหลักการ 12 มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 แต่ยังไม่สามารถลงลึกในรายละเอียด เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวในวันที่ 23 ม.ค.นี้

"จะมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อที่จะพูดคุยในระดับปฏิบัติการให้ชัดเจน เราไม่ได้มีอะไรติดขัดกับมาตรการ แต่อยากให้การดำเนินการเป็นไปได้จริงไม่ได้ออกมาตรการเฉยๆ จากนั้นจะมีการแถลงผลการประชุมอย่างชัดเจนตามมา ว่าพื้นที่กทม.ทำอะไรไปแล้วบ้าง พื้นที่ปริมณฑลทำอะไรบ้าง และในจังหวัดต่าง ๆ ผู้ว่าฯ จะมีอำนาจรับผิดชอบตรงไหนอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจำกัดพื้นที่ในการให้รถยนต์เข้ามา หรือรถกระบะเข้ามาในพื้นที่ไหนได้บ้าง เรื่องการเผาในที่โล่งจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างจริงจัง"

ส่วนเรื่องที่ให้โรงเรียนสามารถหยุดเรียนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาฝุ่นพิษได้หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องของโรงเรียนอยู่ในอำนาจของผู้อำนวยการสามารถพิจารณาได้เองว่าจะหยุดเรียนหรือไม่ ซึ่งอยู่ในแผนปฏิบัติการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ