นายกฯ ยันให้ความสำคัญแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ศึกษาออกมาตรการอย่างรอบคอบห่วงผลกระทบหลายกลุ่ม

ข่าวทั่วไป Thursday January 23, 2020 14:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ปัญหาเรื่องฝุ่นละอองถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลกำหนดแผนไว้ ระหว่างปี 62-67 โดยเตรียมการไว้เพื่อรองรับกับปัญหา พร้อมกับชี้แจงว่าปัญหาเรื่องฝุ่นเกิดขึ้นในประเทศไทยมานานแล้ว แต่อุปกรณ์เครื่องมือวัดคุณภาพอากาศไม่ได้ทันสมัยเหมือนเช่นปัจจุบัน แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าจึงต้องแจ้งเตือนประชาชนพื่อเป็นการป้องกันและดูแลตัวเอง

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า การแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรก โดยมาตรการต่างๆที่จะออกมานั้นประชาชนต้องเกิดการยอมรับ ไม่เช่นนั้นการบังคับใช้กฏหมายก็จะถูกต่อต้าน นี่คือปัญหาใหญ่ของประเทศไทย แม้จะมีกฏหมายพื้นฐานออกมาบังคับใช้ แต่ก็ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบ

สำหรับมาตรการที่เป็นยาแรงหรือบทลงโทษขั้นแรงที่อาจนำมาใช้นั้น ก็ทำเพื่อประชาชนและป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนมากที่สุด พร้อมกันนี้ต้องเร่งสร้างความรับรู้ถึงสาเหตุการเกิดฝุ่น PM 2.5 และมีมาตรการต่างๆไปแก้ไข

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากจะใช้กฏหมายบังคับก็อาจจะเดือดร้อนประชาชน จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะประเทศมีหลายกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบ เช่น หากห้ามรถบรรทุกเข้าวิ่งในเขตเมือง ก็จะส่งผลกระทบต่อสินค้าอุปโภค-บริโภค และเมื่อถูกจับเพราะควันดำ สิ่งที่จะตามมาคือค่าขนส่งแพงขึ้น สินค้าต่างๆก็จะแพงขึ้นตามมา ดังนั้น ขอให้ทุกคนคิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย

รวมทั้งได้สั่งการให้ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว ซึ่งจากรายงานยังไม่พบโรงงานที่ทำผิดกฏหมาย หรือปล่อยค่าฝุ่นพิษเกินมาตรฐาน พร้อมกำชับให้จับรถที่ปล่อยควันดำทุกคัน และมีมาตรการห้ามวิ่งหรือหยุดวิ่งด้วย พร้อมมองว่าปัญหาการเผาอ้อยที่สร้างมลพิษนั้น บางบริษัทที่รับซื้ออ้อยก็มีมาตรการออกมาเพื่อดูแลชาวสวน ขณะเดียวกันก็จะลดการรับซื้ออ้อยจากการเผาลง แต่ก็ต้องหามาตรการเสริมเพื่อไม่ให้กระทบต่อชาวสวน ไม่เช่นนั้นการบังคับกฏหมายห้ามการเผาก็จะไม่เกิดประโยชน์

สำหรับข้อเสนอแนวคิดเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ตั้งไว้ในเมืองหลวงนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรายละเอียดว่า หากจัดซื้อมาแล้วจะได้ผลหรือไม่ เพราะปัญหาในแต่ละประเทศมีลักษณะไม่เหมือนกัน

ส่วนการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่านั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลได้เตรียมการป้องกันซึ่งอยากให้คนไทยได้นำไปวิเคราะห์ถึงมาตรการของประเทศจีนที่สั่งห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก เมืองอู่ฮั่น ซึ่งเรื่องนี้ทางการจีนสามารถห้ามได้ แต่ในประเทศไทยต้องคำนึงถึงงบประมาณและอุปกรณ์ที่มีอยู่ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ