นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงมาตรการเชิงรุกในการแจ้งเตือนและแนะนำข้อปฏิบัติแก่ประชาชนในการเฝ้าระวังสุขภาพ ตลอดจนวิธีป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ว่า สำนักอนามัยได้กำชับให้ศูนย์บริการสาธารณสุขจัดเตรียมเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ในการป้องกัน PM2.5 พร้อมรับสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน
โดยในสถานการณ์ปกติ ค่าฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในระดับไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในการป้องกันและดูแลตนเอง จากภัยหรืออันตรายที่เกิดจาก PM 2.5 แก่ประชาชน ส่วนในสถานการณ์ที่มี PM2.5 เกินมาตรฐานมากกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ และเฝ้าระวังแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยบุคลากรของศูนย์บริการสาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข และเมื่อค่า PM2.5 อยู่ในระดับ 50-75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะออกหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ รวมถึงจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ ตลอดจนติดตามเยี่ยมผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เมื่อค่า PM2.5 อยู่ในระดับ 76-100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดต่อกัน 3 วัน
ด้านนายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือ PM2.5 ในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูว่า สำนักสิ่งแวดล้อมได้กำหนดมาตรการเพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุม กำกับ ดูแล แหล่งกำเนิด PM2.5 อาทิ เข้มงวดการตรวจจับรถยนต์ควันดำทุกประเภท ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชน ตรวจสอบสถานประกอบการไม่ให้ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐาน ควบคุมบริเวณก่อสร้างให้มีรั้วทึบ มีผ้าใบปิดคลุมการก่อสร้างให้มิดชิด ตลอดจนรณรงค์ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ ไม่เผาขยะ เศษใบไม้ หรือสิ่งใดที่อาจทำให้เกิดควันหรือหมอกควันมากขึ้น ขณะเดียวกันได้มีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบภารกิจพร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง"
นอกจากนี้ยังมีมาตรการเชิงรุกในการแจ้งเตือนค่า PM2.5 วันละ 3 รอบเวลา คือ 07.00 12.00 และ 15.00 น. ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ www.bangkokairquality.com, www.air4bangkok.com, www.prbangkok.com Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม Facebook : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ และแอปพลิเคชัน AirBKK พร้อมทั้งให้คำแนะนำการเฝ้าระวังสุขภาพและวิธีป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM2.5 เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว สามารถป้องกันดูแลสุขภาพได้อย่างทันท่วงที
ขณะที่ นายประพาส เหลืองศิรินภา รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักการจราจรและขนส่งได้ส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อลดปัญหามลพิษอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ) จำนวน 61 สถานี ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกสถานีได้ประมาณเดือนธันวาคม 2563
ขณะเดียวกันได้ส่งเสริมการเดินเรือในคลอง เช่น คลองภาษีเจริญ และคลองผดุงกรุงเกษม โดยในคลองผดุงกรุงเกษมมีเรือไฟฟ้าให้บริการ ซึ่งจะช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศและเสียง ตลอดจนร่วมมือกับภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ส่งเสริมการใช้จักรยานในการเดินทางเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน นอกจากนั้น ยังได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ เพื่อสร้างการตระหนักรู้ร่วมกันในผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 ที่เกิดจากการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล