สธ.ชี้สถานการณ์โควิดระบาดทั้งไทย-โลกแนวโน้มดีขึ้น อัตราผู้ป่วยใหม่/เสียชีวิตลดลง

ข่าวทั่วไป Friday February 19, 2021 16:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด -19 ทั้งสถานการณ์โลกและในประเทศไทยว่า ภาพรวมสถานการณ์โลก พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ต่อวันทั่วโลก ลดลง 28% ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่ต่อวันทั่วโลก ลดลง 20% เมื่อเทียบกับ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า

ส่วนสถานการณ์การระบาดที่สหรัฐอเมริกาก็มีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งเมื่อดูจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ จะเห็นว่าลดลง 43% ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรายวัน ลดลง 29% เมื่อเทียบกับในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า อย่างไรก็ดี แม้จะไม่ใช่ผลโดยตรงเพียงอย่างเดียวจากการเริ่มฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิดให้กับประชาชนในสหรัฐ แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากที่สหรัฐมีความเข้มงวดมากขึ้นในการใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกไปที่สาธารณะ การเว้นระยะห่าง และการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลที่เข้มงวดขึ้นกว่าปีก่อน จึงสามารถลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตลงได้

ขณะที่สถานการณ์ในประเทศหลังการระบาดรอบใหม่มีแนวโน้มดีขึ้น จำนวนจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง แม้ในภาพรวมประเทศจะไม่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ 100% แบบการระบาดในรอบแรก อีกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันตลอดช่วง 7 วันที่ผ่านมา เริ่มลดลงมาอยู่ในระดับ 100 กว่าราย

อัตราการเสียชีวิตเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศในรอบแรก อยู่ที่ 1.42% รอบใหม่อยู่ที่ 0.11% รวม 2 รอบเฉลี่ยเพียง 0.33% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ซึ่งอยู่ที่ 2.21% จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 110 ล้านคน

"แสดงให้เห็นว่า มาตรการในการดูแลผู้ติดเชื้อของไทย มีความเข้มข้น และทันท่วงที ทำให้อัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของโลกมาก" นพ.เฉวตสรร กล่าว

กระทรวงสาธารณสุข ยังให้ข้อมูลถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า สถานการณ์ในภาพรวมทั่วโลก มีการฉีดวัควีนไปแล้ว 80 ประเทศ ประชากรรับวัคซีนไปแล้ว 200 ล้านโดส โดยในสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนไปแล้วราว 60 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรของสหรัฐ ส่วนประเทศไทย วัคซีนซิโนแวกจะมาถึงไทยวันที่ 24 ก.พ.นี้อย่างแน่นอน และหลังจากได้ตรวจสอบประสิทธิภาพของวัคซีนแล้ว จะเริ่มฉีดให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุขที่ทำงานด่านหน้าก่อน 2 แสนโดส หรือ 1 แสนคน

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมแนวทางการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยได้วางต้นแบบให้การให้บริการแก่โรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งหมด 8 ขั้นตอน คือ 1.ลงทะเบียน (ทำบัตร) 2.ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต 3.คัดกรอง ซักประวัติ ลงนามใบยินยอมการรับวัคซีน 4.รอรับการฉีดวัคซีน 5.ฉีดวัคซีน 6.พักสังเกตอาการ 30 นาที และให้สแกน Line Official account "หมอพร้อม" ซึ่งในขั้นตอนนี้ ทางรพ.จะต้องจัดเตรียมห้องปฐมพยาบาล และอุปกรณ์ทางการแพทย์พร้อมเผื่อผู้ที่มารับวัคซีนมีอาการแพ้ หรือเกิดผลข้างเคียงจะได้ให้การดูแลอย่างทันท่วงที 7.มีจุดตรวจสอบย้อนกลับ พร้อมรับการปฏิบัติตัวหลังฉีดวัคซีน และ 8.รพ.จัดทำประเมินผลความครอบคลุมการฉีดวัคซีน และอาการไม่พึงประสงค์

หลังฉีดวัคซีนแล้ว 30 วัน ทางรพ.จะติดตามอาการ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนที่ได้รับวัคซีนไปแล้วมีความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงประสิทธิภาพในการป้องกันโรค และจะมีการนัดฉีดเข็มที่ 2 อีกหลังจากฉีดเข็มแรกราว 3-4 สัปดาห์

การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายถือว่ามีความสำคัญสูงสุด และจะพยายามฉีดวัคซีนให้คนไทยได้มากที่สุด เพื่อทำให้เกิดภูมิคุ้มกันระดับประเทศอย่างทั่วถึง ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เร็วที่สุด เพื่อทำให้เศรษฐกิจของไทยกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ