ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,547 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,316 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 228 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 3 ราย มาจากประเทศต้นทาง โอมาน 2 ราย มาเลเซีย 1 ราย
- เสียชีวิต 2 ราย อายุต่ำกว่า 60 ปีทั้งคู่ โดยผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายไทย อายุ 38 ปี อาชีพโปรแกรมเมอร์ ที่อยู่ขณะป่วย จ.ตาก มีโรคประจำตัว โรคอ้วน มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า Cluster ทองหล่อ, รายที่สอง เป็นชายไทย อายุ 51 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ขณะป่วยอยู่ที่จ.ปทุมธานี มีโรคประจำตัว โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 40,585 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 17,373 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 19,980 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3,232 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 28,570 ราย เพิ่มขึ้น 90 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 99 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. ระบุว่า กลุ่มก้อนการระบาดที่พบมากขึ้นในช่วงวันที่ 10-15 เม.ย.64 ประกอบด้วย เชียงใหม่ cluster ค่ายอาสา กระจายไป 13 จังหวัด, นครสวรรค์ cluster สถานบันเทิง กระจายไป 2 จังหวัด, กาญจนบุรี cluster โรงเรียน, สงขลา cluster ผับ หาดใหญ่ cluster งานเลี้ยงรุ่น, นครราชสีมา cluster ร้านหมูกระทะ cluster สังสรรค์คาราโอเกะ, นนทบุรี cluster งานสัมมนาบริษัท กระจายไป 8 จังหวัด, นครศรีธรรมราช cluster งานสานต่อ 100 สนามฟุตบอล กระจายไป 3 จังหวัด cluster งานบวช จึงนำไปสู่การยกระดับมาตรการ
โฆษก ศบค. ยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว แต่เป็นการปรับระดับมาตราการป้องกันควบคุมโรคของพื้นที่แทน โดยเป็นการจำกัดที่หมายและลดการเคลื่อนย้าย ซึ่งจะเริ่มมีผลคืนนี้
นอกจากนี้ย้ำว่าการประกาศเคอร์ฟิว เป็นอำนาจผู้อำนวยการ ศบค. เท่านั้น ไม่ใช่อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด
ส่วนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 140,511,425 ราย เสียชีวิต 3,012,007 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 32,305,912 ราย อันดับสอง อินเดีย 14,521,683 ราย อันดับสาม บราซิล 13,834,342 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,224,321 ราย และอันดับห้า รัสเซีย 4,684,148 ราย โดยประเทศไทย ยังคงอยู่ในอันดับที่ 110