ผบ.ตร.เตรียมคิกออฟสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 รับ 120 วันเปิดประเทศ นำร่องกทม.-เมืองเศรษฐกิจ

ข่าวทั่วไป Friday June 25, 2021 16:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ9) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในโครงการ People Poll สำรวจความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมและความเชื่อมั่นประชาชนของการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ ผ่าน Google form นำร่อง 4 เดือน (มิ.ย. - ก.ย. 64)

สำหรับผลสำรวจในเดือนมิ.ย. นี้มีประชาชนกรอกข้อมูลเข้ามากว่า 2 แสนกว่าราย จากสถานีตำรวจ 1,484 แห่ง โดยมีช่วงอายุระหว่าง 20-40 ปี

"ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะที่ผ่านมาในหนึ่งปีมีการจัดเก็บตัวอย่างเพียง 1-2 พันราย แต่ตอนนี้เมื่อเราใช้ข้อมูลที่ทันสมัย ใช้เครื่องมือ Google form ประชาชนก็จะกรอกง่าย อยู่บ้านก็กรอกได้" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ผลสำรวจยังพบว่าสิ่งที่ประชาชนทั้งประเทศมีความต้องการมากที่สุดคือกล้องซีซีทีวี เพราะประชาชนมีความมั่นใจต่อการบันทึกภาพจากกล้อง ทำให้ ผบ.ตร.ได้ริเริ่มนำร่องโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3 โซน คือ ห้วยขวาง ลุมพินี และภาษีเจริญ ส่วนในต่างหวัดจะมีภาคละ 1 โซน คือ พัทยา ภูเก็ต อุดรธานี ปากเกร็ด สมุทรปราการ เชียงใหม่ หาดใหญ่ เป็นต้น ซึ่งโครงการดังกล่าวมีการนำกล้อง AI มาใช้จดจำใบหน้า ติดตามบุคคลได้

"แนวคิดสมาร์ทเซฟตี้โซนของ ผบ.ตร.จะนำร่องในเมืองเศรษฐกิจที่เป็นแลนด์มาร์คของประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประเทศในอีก 120 วัน ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยจะมีการเปิดโครงการที่แยกราชประสงค์ในต้นเดือนหน้า และจะคิกออฟพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนให้หวาดกลัวภัยน้อยที่สุด" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

สำหรับผลสำรวจในหัวข้อความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมต่อชีวิต ร่างกาย และเพศ พบว่า ประชาชนหวาดกลัวภัยในเรื่องการทำร้ายร่างกายมากที่สุด รองลงมาคือการถูกฆ่า และอันดับที่สามคือภัยยาเสพติด ขณะที่หัวข้อความหวาดกลัวภัยต่อทรัพย์สิน ประชาชนหวาดกลัวเรื่องการลักทรัพย์มากที่สุด รองลงมาคือชิงทรัพย์ และอันดับที่สามการวิ่งราวทรัพย์ ส่วนหัวข้อความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมสมัยใหม่ ประชาชนหวาดกลัวเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากที่สุด รองลงมาคือการหลอกลวงซื้อของออนไลน์ และอันดับที่สาม การพนันออนไลน์

"แบบฟอร์มนี้วัดความรู้สึกและความต้องการของประชาชนได้จริงๆ ทำให้ ผบ.ตร.สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการสั่งการตำรวจทุกโรงพัก บริหารข้อมูลเหล่านี้ตามสถานการณ์จริงได้ ทิศทางการทำงานจะชัดเจนและตรงเป้ามากขึ้น วันนี้ฟันเฟืองทุกตัวต้องขยับ ข้อมูลพีเพิลโพล จะบอก ผกก.ทุกโรงพัก ว่าพื้นที่ตนเองมีปัญหาอะไรมากที่สุด" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนที่ขึ้นมาใช้บริการภายในสถานีตำรวจใช้เกณฑ์ 70% โดยทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศผ่านเกณฑ์หมด แต่ผ่านเกณฑ์แบบปริ่มๆ 74-76% ทำให้ต้องพัฒนาต่อไป

"การสำรวจของพีเพิลโพลเป็นระบบที่จำกัด 1 หมายเลขโทรศัพท์ต่อ 1 การให้ข้อมูล และทำได้เพียง 1 ครั้งต่อเดือน เพราะฉะนั้นจะไม่มีหน้าม้ามาให้ข้อมูล และ ผบ.ตร.ย้ำว่าขอให้กรอกข้อมูลแบบตรงไปตรงมา จะได้นำข้อมูลมาปรับปรุงการทำงานของสายตรวจ ฝ่ายสืบสวน และจราจรได้" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ