สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ออกประกาศเพิ่มเติมเพื่อย้ำแนวปฏิบัติสำหรับสายการบินให้ครอบคลุมการตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยภายใต้โครงการนำร่องด้านการท่องเที่ยว (ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์) และต้องการเดินทางออกจากพื้นที่ ประกาศเมื่อวันที่ 23 ก.ค.64 และมีผลตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.64 เป็นต้นไป
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค.64 ที่ผ่านมา กพท.ได้ออกประกาศเรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 3) ซึ่งในประกาศได้กำหนดแนวปฏิบัติสำหรับสนามบินและสายการบินที่ยังคงให้บริการได้ในช่วงเวลานี้ โดยในข้อ 6 (3) มีใจความสำคัญคือ ให้สายการบินตรวจสอบเอกสารสำคัญของผู้โดยสารก่อนออกบัตรโดยสาร ตามมาตรการป้องกันโรคของจังหวัดปลายทางอย่างเคร่งครัด หากตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน อาจพิจารณาระงับการออกบัตรโดยสารแก่ผู้โดยสารนั้น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคให้รัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการสำหรับกรณีผู้โดยสารที่เข้ามาประเทศไทยภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และต้องการเดินทางออกจากพื้นที่โครงการฯ ไปยังจังหวัดอื่นภายในประเทศ กพท.จึงออกประกาศเรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 4) โดยให้ยกเลิกความข้อ 6 (3) ในประกาศฉบับที่ 3 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
โดยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะมีสายการบินบางกอกแอร์เวย์สทำการบินเส้นทาง ภูเก็ต-สมุย และสายการบินนกแอร์ทำการบินเส้นทาง ภูเก็ต-อู่ตะเภา ซึ่ง กพท.ได้ประสานกับสายการบินดังกล่าวแล้วเพื่อเน้นย้ำให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดและปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดสำหรับผู้โดยสารที่มาจากโครงการ Sandbox ที่ต้องการเดินทางไปยังจังหวัดอื่นในประเทศไทย โปรดติดต่อสอบถามสายการบินก่อนการเดินทางเพื่อให้มั่นใจว่าได้จัดเตรียมเอกสารครบถ้วนก่อนการเดินทาง เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น