สศก.เผยดัชนีผาสุกเกษตรกรปี 64 พัฒนาระดับดี แต่ต้องปรับปรุงด้านสิ่งแวดล้อม-การศึกษา

ข่าวทั่วไป Friday November 25, 2022 11:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สศก.เผยดัชนีผาสุกเกษตรกรปี 64 พัฒนาระดับดี แต่ต้องปรับปรุงด้านสิ่งแวดล้อม-การศึกษา

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยผลศึกษาดัชนีความผาสุกของเกษตรกรระดับประเทศปี 2564 อยู่ที่ระดับ 81.10 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับดี แต่ลดลงจากปี 2562 ซึ่งมีค่าดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 81.48 และเมื่อพิจารณาดัชนีความผาสุกของเกษตรกรในแต่ละภูมิภาค พบว่า ภาคกลางมีค่าดัชนีฯ มากที่สุดที่ระดับ 82.33 รองลงมา คือ ภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 82.23 ภาคเหนือ อยู่ที่ระดับ 81.12 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 80.54 ซึ่งทุกภาคมีการพัฒนาอยู่ในระดับดี

สศก.เผยดัชนีผาสุกเกษตรกรปี 64 พัฒนาระดับดี แต่ต้องปรับปรุงด้านสิ่งแวดล้อม-การศึกษา

เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละด้าน พบว่า

  • ดัชนีด้านสุขอนามัย ในภาพรวมระดับประเทศอยู่ที่ระดับ 98.77 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับดีมาก ใกล้เคียงกับปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 98.79 โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าดัชนีมากที่สุดที่ระดับ 99.22 รองลงมา คือ ภาคกลาง มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 98.98 ภาคเหนือ มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 98.21 และภาคใต้ มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 97.78 ซึ่งทุกภาคมีการพัฒนาอยู่ในระดับดีมาก

โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายส่งเสริมการผลิตสินค้าที่มีความปลอดภัย มีคุณภาพการให้ความรู้เพื่อสร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยของอาหาร และการดำเนินการส่งเสริมสุขภาพและการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมบริเวณที่พักอาศัยตามหลักสุขาภิบาลให้เอื้อต่อการมีสุขภาพดี ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงสาธารณสุข

  • ดัชนีด้านสังคม ในภาพรวมระดับประเทศอยู่ที่ระดับ 92.64 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับดีมาก ใกล้เคียงกับปี 2562 ซึ่งมีค่าอยู่ที่ระดับ 92.67 โดยภาคกลาง มีค่าดัชนีมากที่สุดอยู่ที่ระดับ 94.98 รองลงมา คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 92.37 ภาคเหนือ มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 92.36 และภาคใต้ มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 90.39 ซึ่งทุกภาคมีการพัฒนาอยู่ในระดับดีมาก

โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเตรียมแผนรองรับจำนวนผู้สูงอายุที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องผ่านแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2545-2565) ซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้อยู่กับครอบครัว มีค่านิยมในการอยู่ร่วมกับผู้สูงอายุ และสมาชิกในครอบครัวและผู้ดูแล มีศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุ และยังมีโครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร รวมถึงจูงใจคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจประกอบอาชีพทางด้านการเกษตรมากขึ้น

  • ดัชนีด้านเศรษฐกิจ ในภาพรวมระดับประเทศอยู่ที่ระดับ 77.31 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลาง เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 75.58 โดยภาคใต้ มีค่าดัชนีมากที่สุดอยู่ที่ระดับ 86.28 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับดี รองลงมา คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 78.60 ภาคกลาง มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 76.96 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลาง และภาคเหนือ มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 69.15 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับต้องปรับปรุง แม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งในบางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่ภาครัฐได้ดำเนินนโยบายและมาตรการในการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง อาทิ เพิ่มทักษะการประกอบอาชีพ การพัฒนาช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร รวมทั้งการประกันรายได้เกษตรกร ทำให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการสินค้าเกษตรให้ออกสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
  • ดัชนีด้านสิ่งแวดล้อม ในภาพรวมระดับประเทศอยู่ที่ระดับ 64.49 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับต้องปรับปรุง ลดลงจากปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 69.60 โดยภาคเหนือมีค่าดัชนีมากที่สุดอยู่ที่ระดับ 77.48 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลาง รองลงมา คือ ภาคกลาง มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 66.24 ภาคใต้ มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 60.74 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับต้องปรับปรุง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 57.08 เป็นการพัฒนาอยู่ระดับต้องเร่งแก้ไข เป็นผลจากปี 2564 มีพื้นที่ได้รับการฟื้นฟูทรัพยากรดิน 2.02 ล้านไร่ ลดลงจากปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 2.67 ล้านไร่ ขณะที่สัดส่วนพื้นที่ป่าต่อพื้นที่ทั้งหมดของประเทศลดลงเช่นกัน เนื่องจากภาครัฐดำเนินการจัดที่ดินทำกินในพื้นที่ป่าภายใต้โครงการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ให้กับชุมชน เพื่อทำเกษตรกรรมและเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ในชุมชน
  • ดัชนีด้านการศึกษา ในภาพรวมระดับประเทศมีค่าอยู่ที่ระดับ 56.28 เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 55.09 แต่ยังคงเป็นการพัฒนาที่อยู่ในระดับต้องเร่งแก้ไข โดยภาคใต้ มีค่าดัชนีมากที่สุดอยู่ที่ระดับ 62.19 รองลงมาเป็นภาคกลาง มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 60.15 ซึ่งเป็นการพัฒนาอยู่ในระดับต้องปรับปรุง สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 56.03 และภาคเหนือ มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 51.67 เป็นการพัฒนาอยู่ในระดับต้องเร่งแก้ไข เนื่องจากสมาชิกครัวเรือนเกษตรส่วนใหญ่ในทุกภาคได้รับการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จึงมีผลต่อการปรับตัวและขาดองค์ความรู้ในการเพิ่มผลิตภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรม

นางทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการ สศก. กล่าวว่า สศก. สามารถสรุปข้อเสนอแนะในการพัฒนาแต่ละด้าน ดังนี้ ด้านการศึกษา ควรดำเนินการสนับสนุนและส่งเสริมให้สมาชิกครัวเรือนเกษตรได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น ตลอดจนให้เกษตรกรได้รับการฝึกอบรมที่สอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการทำเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการผลิต

ด้านสิ่งแวดล้อม ควรดำเนินการส่งเสริมการฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม การปลูกสวนป่าชุมชน และป่าเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ ด้านเศรษฐกิจ ควรเร่งจัดสรรที่ดินทำกินให้ครัวเรือนเกษตรที่มีกรรมสิทธิ์การถือครองที่ดินในระดับต่ำ โดยเฉพาะภาคกลางและภาคเหนือ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดิน และเพิ่มความมั่นคงในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ส่งเสริมให้ครัวเรือนเกษตรทำการเกษตรแบบผสมผสานเพื่อลดความเสี่ยงและความผันผวน

ด้านรายได้จากการทำเกษตรเชิงเดี่ยว และส่งเสริมการจัดทำบัญชีครัวเรือนเกษตรและบัญชีฟาร์มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรสามารถวางแผนการลงทุนทางการเกษตรได้อย่างเป็นระบบ

ด้านสังคม ควรดำเนินการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง ให้เกษตรกรรายย่อยรวมกลุ่มในรูปแบบแปลงใหญ่/สหกรณ์/วิสาหกิจชุมชน โดยเฉพาะครัวเรือนในภาคใต้ เพื่อบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงประสบการณ์ระหว่างกัน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การแปรรูป และการตลาด รวมถึงลดต้นทุนจากการใช้ปัจจัยการผลิต และวางแผนการตลาดร่วมกัน นำไปสู่การเพิ่มอำนาจต่อรองให้เกษตรกร

และด้านสุขอนามัย ควรดำเนินการสนับสนุนและส่งเสริมด้านการขับเคลื่อนอาหารปลอดภัย มีคุณภาพ และได้รับการรับรองมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการสุขาภิบาลที่พักอาศัย และสิ่งแวดล้อมในหมู่บ้านและชุมชน

ทั้งนี้ สศก.ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความผาสุกของเกษตรกรเป็นประจำทุกปี และใช้เป็นตัวชี้วัดของแผนพัฒนาการเกษตรในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2565) โดยนำมาเปรียบเทียบกับปี 2562 จากเดิมต้องเปรียบเทียบกับปี 2563 เนื่องจากเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรง ทำให้บางหน่วยงานไม่สามารถลงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลพื้นฐานบางตัวที่ใช้ในการคำนวณดัชนีความผาสุกของเกษตรกรปี 2563 ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ