นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ไทยให้ความสำคัญกับการรับมือและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ โดยมีเป้าหมายในการเป็นประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 และเป็นประเทศปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2065 และเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายการมีส่วนร่วมของประเทศ (Nationally Determined Contributions : NDCs) ให้สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ร้อยละ 30 ภายในปีพ.ศ. 2030
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โดยล่าสุด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้จัดทำแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (Thailand?s National Adaptation Plan : NAP) ซึ่งที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบในแผนดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 แผน NAP ถือเป็นแนวทางการดำเนินงานของประเทศเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ระบุ NDCs ในส่วนของมาตรการการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มุ่งเน้นการกำหนดแนวทางการดำเนินงานเพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยแผนดังกล่าวสอดคล้องกับแผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2558 ? 2593
โดยแผน NAP นี้ยังจะเป็นโอกาสให้ประเทศไทยเข้าถึงการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี และเสริมสร้างขีดความสามารถในการดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ และเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกตามกรอบอนุสัญญาฯ และความตกลงปารีสอีกด้วย
"การเปลี่ยนแปลงสีเขียว ถือเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามของไทยในทุกภาคส่วน และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ รัฐบาลทำงานอย่างต่อเนื่องและไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อให้แน่ใจว่า ประเทศไทยจะเดินหน้าตามแผนและเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคธุรกิจที่จะดำเนินการและขยายห่วงโซ่อุปทาน เพื่อความยั่งยืนในการประกอบธุรกิจในไทย" นางรัดเกล้าฯ กล่าว