รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.ระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีเข้าสู่ภาวะวิกฤติ โดยเอ่อสูงกว่า 2.50 เมตรล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 300 หลังคาเรือนในเขตเทศบาล ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำปราจีนบุรี ส่งผลให้รถยนต์ไม่สามารถเข้า-ออกได้ต้องใช้เรือแทน ส่วนประชาชนต้องหนีออกจากบ้านเรือนของตนเองไปอาศัยอยู่บนถนนสายต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นที่สูง สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ อ.ประจันตคาม และ อ.เมืองปราจีนบุรี อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า ทั่วทุกภาคของประเทศยังมีฝนกระจาย 40-70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ ยังต้องระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดซ้ำได้อีกในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือในวันที่ 22-24 ก.ย.นี้ไว้ด้วย ล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยว่า มีพื้นที่ประสบภัยรวม 21 จังหวัด 102 อำเภอ 525 ตำบล 3,637 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ลพบุรี เลย สระบุรี ขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมาหนองบัวลำภู อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด และจันทบุรี โดยมียอดผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 272,612 ครัวเรือน 714,719 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 8 หลัง บางส่วน 1,887 หลัง สะพาน 25 แห่ง ทำนบ/ฝาย 22 แห่ง ถนน 659 สาย วัด 16 แห่ง โรงเรียน 10 แห่ง สถานที่ราชการ 10 แห่ง ปศุสัตว์ 173 ตัว บ่อปลา/กุ้ง 62 บ่อ พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมประมาณ 188,835 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 28.57 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์:
[email protected]