นายกฯระบุแก้ปัญหาไม่สงบชายแดนภาคใต้ยึดหลักความเป็นธรรม-ไม่สร้างเงื่อนไข

ข่าวทั่วไป Saturday January 17, 2009 16:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ถือเป็นเรื่องของรัฐบาล พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม ยึดหลักมนุษยชน และต้องไม่สร้างเงื่อนไข

หลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพบว่าที่ผ่านมา การปฏิบัติงานยังติดขัดอยู่ในบางเรื่อง โดยเฉพาะงบประมาณที่มีความล่าช้า เรื่องของการขาดความเป็นเอกภาพในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการพิสูจน์หลักฐานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์

แต่โดยภาพรวมพบว่า แนวโน้มของสถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ได้มอบแนวทางและนโยบายการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ ที่สำคัญหลายเรื่อง โดยเฉพาะการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน และให้นำเทคโนโลยีทางด้านนิติวิทยาศาสตร์มาใช้ในการพิสูจน์หลักฐาน ส่วนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่นั้น จะต้องไม่สร้างเงื่อนไข เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปเป็นเครื่องมือในการโจมตีการทำงานของรัฐโดยเด็ดขาด

และหากพบว่ามีการนำเรื่องในลักษณะไปโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง จะต้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนทั้งในและต่างประเทศโดยเร็วที่สุด โดยรัฐบาล และ กระทรวงการต่างประเทศจะร่วมชี้แจงด้วย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเปิดโอกาสให้องค์กรเอกชน สามารถเข้าไปตรวจสอบการทำงาน และพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกองค์กรเอกชน

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการการปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ดำเนินการแก้ไขปัญหาความไม่สงบควบคู่กับการพัฒนา ซึ่งการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการ โดยจะมีกลไกของคณะรัฐมนตรีพิเศษมาดูแลและช่วยทำให้การประสานงานระหว่างกระทรวงต่าง ๆ เป็นไปย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องการบริหาร ขวัญกำลังใจของข้าราชการในพื้นที่ เช่น เบี้ยเสี่ยงภัย การใช้งบประมาณสำรอง

ส่วนเรื่องการศึกษา ได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการเข้าไปดูแลระบบบริหารการศึกษาเอกชนและอาชีวศึกษา ซึ่งถือว่าการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องแตกต่างจากที่อื่น อย่างไรก็ตามรัฐบาลชุดนี้มีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาอย่างเป็นเอกภาพ มาตรฐานสากล

สำหรับการนำกฎหมายด้านความมั่นคงมาใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการต่ออายุพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 3 เดือน โดยกำหนดว่า ก่อนที่จะมีการพิจารณาต่ออีกครั้ง โดยให้ทุกฝ่ายสรุปกลไกทางกฎหมายที่ใช้อยู่ในพื้นที่ ทั้งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กฎอัยการศึก และกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ เพื่อหาข้อสรุปว่าในทางปฏิบัติ กฎหมายใดจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาภาคใต้ขาดเอกภาพ ขาดคนขับเคลื่อนนโยบาย จึงต้องประสานงาน เพื่อให้เกิดการใช้กฎหมายอย่างเป็นรูปธรรม



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ