เชคฮาร์ ดัตต์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอินเดีย กล่าวว่า อนาคตของอินเดียกำลังถูกคุกคามจากภาวะขาดแคลนอาหาร น้ำ และพลังงาน ซึ่งเรื่องนี้ควรได้รับการจัดการแก้ไขเป็นอันดับแรก
ปริมาณน้ำฝนที่ไม่เพียงพอในปีนี้ได้ส่งผลให้เกิดภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆถึง 278 เขต จากทั้งหมด 626 เขตทั่วประเทศ และได้จุดกระแสความหวั่นวิตกเรื่องการขาดแคลนอาหารและราคาอาหารที่อาจปรับตัวสูงขึ้น หน่วยงานราชการใน 3 รัฐจึงได้บุกค้นผู้กักตุนสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่สัญญาซื้อขายน้ำตาลดิบทะยานขึ้นแล้ว 90% ในปีนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ด้วยประชากรมากกว่า 70% ที่มีเงินประทังชีพวันละไม่ถึง 2 ดอลลาร์ รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ กำลังดำเนินการแก้ปัญหาทุกๆด้านที่ส่งผลต่อความมั่นคงภายในของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น การจ้างงาน โครงสร้างพื้นฐาน และการอ่านออกเขียนได้ นอกเหนือไปจากการป้องกันประเทศจากภัยคุกคามภายนอก โดยในอีก 5 ปี อินเดียวางแผนที่จะลงทุนสูงถึง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ซื้ออาวุธใหม่ๆเพื่อพัฒนากองทัพให้มีความทันสมัย
ธนาคารโลกกล่าวเมื่อเดือนมิ.ย.ว่า การขาดแคลนไฟฟ้าเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาในอินเดีย โดยประชาชนมากกว่า 400 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากอุปทานพลังงานน้อยกว่าอุปสงค์ถึง 16.6% ซึ่งที่ปรึกษานายกฯอินเดียกล่าวว่า การทำข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เพื่อให้อินเดียสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนิวเคลียร์และเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้า ก็นับว่าเหมาะสมต่อนโยบายการใช้พลังงานผสมผสานเพื่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งข้อทำข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นการยุติการโดดเดี่ยวอินเดียจากนิวเคลียร์ซึ่งนับย้อนไปตั้งแต่ปีพ.ศ. 2517 เมื่ออินเดียทดลองระเบิดปรมาณูเป็นครั้งแรก