สถานการณ์ในจังหวัดสุมาตราตะวันตกของอินโดนีเซีนเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากพื้นที่ดังกล่าวเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีโรงเรียนและสำนักงานหลายแห่งเริ่มเปิดทำการ ส่วนบรรดาพ่อค้าแม่ขายเริ่มเปิดร้านตามท้องถนน และธนาคารหลายแห่งได้เปิดให้บริการตามเดิม ขณะที่ทางการเริ่มยุติการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารและบ้านเรือน
เจ้าหน้าที่จากหน่วนกู้ภัยในจังหวัดสุมาตราตะวันตกกล่าวว่า "เราตัดสินใจที่จะยุติการค้นหาผู้ที่อาจรอดชีวิต หลังจากที่เจ้าหน้าที่ใช้สุนัขดมกลิ่น 24 ตัวช่วยในการปฏิบัติภารกิจกู้ภัย และนับจากวันนี้เป็นต้นไป เราจะเริ่มทำความสะอาดพื้นที่และค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งเราคาดว่าขั้นตอนการทำความสะอาดจะแล้วเสร็จภายใน 1 หรือ 2 สัปดาห์"
ข้อมูลจากศูนย์บรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติในกรุงจาการ์ต้าระบุว่า ในเช้าวันนี้มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต 608 ราย ส่วนผู้สูญหายหรือคาดว่าจะเสียชีวิตอยู่ที่ 343 ราย ขณะที่ทางสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวราว 1,100 คน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อาคารบ้านเรือน 178,671 หลังรวมถึงโรงเรียน 503 แห่งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยพื้นที่ในจังหวัดปาดังซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 820,000 คน เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
สำหรับสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนนั้น เจ้าหน้าที่ในจังหวัดสุมาตราตะวันตกกล่าวว่า "บริษัทไฟฟ้ายืนยันว่าจะให้บริการจ่ายกระแสไฟฟ้าตามปกติภายใน 10 วัน ขณะที่ประเด็นเรื่องน้ำสะอาดยังคงเป็นปัญหาสำหรับชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าว "