พธม.ไม่ยอมให้ตำรวจขอคืนพื้นที่เพิ่ม-จ่อล่า 20,000 รายชื่อถอดถอนนายกฯ

ข่าวการเมือง Friday March 4, 2011 12:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่า ความพยายามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอคืนพื้นที่เพิ่มเติมนั้นคงจะไม่ง่าย เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ชุมนุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณ ถ.พิษณุโลก ซึ่งทางแคบมาก หากมีรถสัญจรไปมา อาจทำให้เฉี่ยวชนผู้ชุมนุมได้

พร้อมขอร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าการเปิดพื้นที่ไม่ได้ทำให้การจราจรดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับชีวิตความชีวิตของประชาชน และไม่เชื่อว่าเมื่อเปิดพื้นที่แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจัดกำลังมารักษาความปลอดภัยให้แก่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตลอดเวลา

น.ส.ขวัญดิน สิงห์คำ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม กล่าวว่า ในพื้นที่การชุมนุมมีห้องสุขาทั้งหมด 115 ห้อง และห้องอาบน้ำอีก 45 ห้อง แต่คาดว่าในที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่จะพยายามขอรื้อถอนทั้งหมด ขณะที่การเปิดพื้นที่จราจรด้านสะพานชมัยมรุเชษฐ์นั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามมาประสานงานทุกวัน

"กระบวนการเหล่านี้เป็นความพยายามในการสลายการชุมนุมเป็นลำดับ จากการยึดคืนถนน 2 เลน ต่อมาก็มากดดันเรื่องห้องสุขา ซึ่งรัฐบาลทราบดีว่ามีความจำเป็นต่อการชุมนุมมาก และเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ผู้ชุมนุมลำบากและยุติการชุมนุมเอง อีกทั้งยังมีมาตรการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนในทำเนียบรัฐบาลฝึกซ้อมและร้องเพลงปลุกใจข่มขวัญผู้ชุมนุมเป็นประจำทุกวัน" น.ส.ขวัญดิน กล่าว

อย่างไรก็ดี ในเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ก็จะมาพบกับผู้ประสานงานกองทัพธรรม เพื่อขอรื้อถอนสุขาและห้องอาบน้ำของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยอ้างว่ากีดขวางการจราจรและจะนำรถสุขาเคลื่อนที่มาให้ใช้แทน หลังจากเมื่อช่วงเช้าได้ถูกปฏิเสธไปแล้วไม่ยอมให้รื้อถอนไปแล้ว

ด้านนายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย เปิดเผยว่าในเวลา 15.00 น. คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทยจะมีการประชุมกันภายหลังจากที่ศาลแพ่งมีคำสั่งต่อกรณีที่พันธมิตรฯ ยื่นคำร้องขอให้คุ้มครองชั่วคราวจากการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็มีความพยายามกดดันไม่ให้ประชาชนชุมนุมที่นี่อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นการชุมนุมโดยสงบตามระบอบประชาธิปไตย

พร้อมมองว่า เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่ารัฐบาลชุดนี้พยายามคุกคามสิทธิของประชาชน และละเมิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำ MOU ปี 2543 มาใช้ ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยสูญเสียดินแดนอธิปไตย ดังนั้นจึงคิดว่าเมื่อรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรมเช่นนี้ ก็ยังมีช่องทางที่ภาคประชาชนสามารถทำได้ในการเข้าชื่อ 20,000 รายชื่อเพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ