นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวในการประชุมใหญ่สามัญพรรค ประจำปี 53 ว่าพรรคประชาธิปัตย์ มีประวัติศาสตร์ทางการเมืองอย่างมากและต้องประสบกับวิกฤติมาหลายครั้ง แต่ปีที่ผ่านมาถือว่ารุนแรงที่สุดปีหนึ่ง เพราะไม่แต่เพียงการเข้ามาบริหารประเทศ แต่ยังมีคดียุบพรรค คู่แข่งทางการเมืองใช้ทุกวิถีทางโจมตี แต่พรรคสามารถฝ่าฟันทำงานในภาวะขัดแย้ง จากความเป็นหนึ่งเดียวของพรรค ทำให้ยืนหยัดทำงานเพื่อประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ตนเองได้ประกาศแล้วว่าจะยุบสภาช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม แต่ยังยังไม่ได้กำหนดวัน ดังนั้นอย่าเชื่อกระแสที่ออกมา และขอชี้แจงถึงการยุบสภา เพราะเป็นการตัดสินใจที่มองการพัฒนาประเทศเป็นหลัก พรรคประชาธิปัตย์มักได้เข้ามาทำงานในช่วงที่บ้านเมืองมีวิกฤติ และขณะนี้พรรคได้นำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤติมาได้แล้ว เห็นได้จากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น แต่ความสำเร็จที่แท้จริง คือการผลักดันนโยบายให้ประชาชนได้สำเร็จ อาทิ การเรียนฟรี 15 ปี
"วันนี้ไม่ควรถามแต่เรื่องความขัดแย้ง ขอให้เอาการเลือกตั้งมาเป็นตัวตัดสิน อยากย้ำว่าการเลือกตั้งเป็นเรื่องของอนาคต ต้องคิดว่าเราจะทำอะไรให้ประชาชน เรามีความชัดเจนว่า ต้องการเข้าไปช่วยประชาชน ไม่อยากให้การเมืองวนเวียนอยู่ที่การชุมนุม การทำปฏิวัติ การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับประเทศ และประชาธิปไตย แต่ทุกคนต้องเหนื่อยมากเป็นพิเศษ ถ้าใครมาบอกว่าเลือกตั้งครั้งนี้เราชนะง่ายๆ หรือพรรคเพื่อไทยจะชนะสบายๆ ไม่เป็นความจริง เพราะของจริงการเลือกตั้งสูสีมาก อยู่ที่ว่าเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเข้าใจตรงกันหรือไม่" นายอภืสิทธิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าประชาชนยังให้การสนับสนุนพรรค เพราะประโยชน์เกิดขึ้นกับประชาชน แต่ต้องไม่ประมาท เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาทางพรรคจะมีเสียงดี แต่คะแนนออกมาไม่ค่อยมา ดังนั้นการรณรงค์ต้องทำเป็นระบบ ต้องมีวินัย เพราะเชื่อว่าคู่แข่งต้องทำทุกรูปแบบ ซึ่งคงไม่ยอมให้คนใช้วิธีการข่มขู่คุกคามใช้ความรุนแรงมาเป็นคนชี้อนาคตของประเทศ
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประมาณปลายเดือนกรกฎาคม 54 คาดว่าจะมีการประชุมใหญ่ของพรรคอีกครั้ง เพราะต้องรอให้การเลือกตั้งเสร็จสิ้นก่อน เพื่อวางเป้าหมายในการทำงานของพรรค ซึ่งพรรคตั้งเป้าว่า ต้องมีสมาชิกพรรคเพิ่มเติมให้ได้ถึง 400,000 คน รวมถึงตั้งสาขาพรรคเพิ่มด้วย พร้อมพัฒนาใช้ระบบสารสนเทศในการติดต่อสื่อสารกันระหว่างสาขาพรรค และต้องระมัดระวังไม่ให้มีความผิดพลาดเกี่ยวกับการดำเนินการทางบัญชีอีก