มูลนิธิเอเชียเผยผลสำรวจความคิดเห็นเรื่องทัศนะการเมืองระหว่าง “ขั้วสี"

ข่าวการเมือง Monday March 28, 2011 18:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มูลนิธิเอเชียแถลงผลสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไทยในระดับประเทศเป็นครั้งที่สอง ภายใต้ชื่อการสำรวจความคิดเห็นพลเมืองไทยระดับประเทศ : มติมหาชนและการเมืองระหว่าง “ขั้วสี" ซึ่งเป็นรายงานอีกชิ้นหนึ่งที่จัดทำขึ้นเพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชนอย่างรอบด้านที่สุดหลังเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองที่ปะทุขึ้นในช่วงเมษายนถึงพฤษภาคม พ.ศ.2553

การสำรวจครั้งนี้ให้น้ำหนักเป็นพิเศษที่ประเด็นร่วมสมัย นั่นคือ การเมืองระหว่าง “ขั้วสี" ส่วนหัวข้ออื่นๆ ที่ให้ความสนใจไม่น้อยกว่ากัน ได้แก่ ความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทย การเลือกตั้ง ความขัดแย้งและความมั่นคงของชาติ ตลอดจนทางเลือกต่างๆ เพื่อความสมานฉันท์ปรองดอง

การสำรวจที่ออกแบบและดำเนินการโดยมูลนิธิเอเชียประเทศไทยครั้งนี้ นำเสนอผลลัพธ์ที่ได้จากการสัมภาษณ์ประชาชนไทยแบบตัวต่อตัว โดยการสุ่มตัวอย่างจากประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 1,500 คน ที่กระจายอย่างสอดคล้องในพื้นที่ทั่วประเทศไทย ระหว่างวันที่ 17 กันยายน — 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

จากการสำรวจความคิดเห็นพลเมืองไทยระดับประเทศ ปี 2553 ครั้งนี้ พบว่าสังคมไทย ณ เวลานี้ ไม่ได้แตกแยกออกเป็น “สองขั้วทางการเมือง" ตามที่ผู้รอบรู้ทางการเมือง นักการเมือง หรือ สื่อจำนวนหนึ่งปักใจเชื่อ ข้อมูลบ่งชี้ว่า คนไทยส่วนใหญ่ มากกว่าร้อยละ 76 ไม่เลือกอยู่ข้างสีใด ไม่ว่าจะกลุ่มเสื้อเหลืองหรือกลุ่มเสื้อแดง ทั้งยังพบว่า สมาชิกภายในกลุ่มเสื้อสีเดียวกันก็ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ไม่ได้ลงรอยกันเสมอไป ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่ากลุ่มการเมือง “ขั้วสี" ต่างๆ เหล่านี้ยึดถืออุดมการณ์อะไร

โดยภาพรวมแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่มีทัศนะต่อสถานการณ์ของประเทศไปในทางบวกมากขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2552 การสำรวจครั้งนี้พบว่า ร้อยละ 54 ของพลเมืองไทยเชื่อว่าประเทศชาติกำลังเดินไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้องนัก ซึ่งต่างไปเล็กน้อยหากเทียบกับปี 2552 (ร้อยละ 58) และในขณะที่ผู้ตอบแบบสำรวจปี 2552 ถึงร้อยละ 60 ลงความเห็นว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือเรื่องเศรษฐกิจ แต่สำหรับในปี 2553 ความคิดเห็นนี้กลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด เหลือเพียงร้อยละ 35 เท่านั้น ส่วนปัญหาใหญ่ที่สุดที่คนไทยกำลังเผชิญได้เปลี่ยนไปเป็นประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองแทน ยืนยันจากผู้ตอบแบบสอบถามถึงร้อยละ 42 ซึ่งเพิ่มจากร้อยละ 24 จากการสำรวจเมื่อปี 2552 การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นยังเป็นประเด็นที่การสำรวจให้ความสำคัญ และเสียงข้างมากที่ท่วมท้นถึงร้อยละ 61 เชื่อว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นจะช่วยทำให้การบริหารและการปกครองดีขึ้นและลดความตึงเครียดทางการเมือง และมีผู้ตอบแบบสอบถามถึงร้อยละ 62 เชื่อว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นจะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและเสื้อเหลือง ในขณะเดียวกัน ผู้ตอบแบบสอบถามมีจำนวนสูงขึ้นเป็นร้อยละ 58 ในปี 2553 จากร้อยละ 48 ในปี 2552 ที่เชื่อว่า การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นจะช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนใต้ได้ในระยะยาว การสำรวจระดับประเทศที่จัดทำขึ้นโดยมูลนิธิเอเชียในปี 2553 นี้ยังคงอิงแนวการสำรวจความคิดเห็นที่ทำขึ้นในปี 2552 ซึ่งเน้นประเด็นการปฏิรูปการเมืองเพื่อการสมานฉันท์เป็นหลัก ส่วนการสำรวจในปี 2553 นี้ได้เพิ่มคำถามที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทางการเมืองมากขึ้น


แท็ก เอเชีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ