"บิ๊กจิ๋ว"รับสนามเลือกตั้งภาคใต้เป็นของ ปชป.แต่หวังแบ่ง ส.ส. 6-7 คน

ข่าวการเมือง Monday April 4, 2011 14:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า การหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ถือเป็นงานหนักเนื่องจากเป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แต่พรรคฯ จะพยายามทำให้ดีที่สุดในการเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ประชาชน โดยต้องใช้ความจริงใจในการทำงาน และต้องเดินตามยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อให้ได้ ส.ส.เพิ่มจาก 1 ที่นั่ง เป็น 6-7 ที่นั่ง ซึ่งในอดีตพรรคฯ เคยได้ถึง 12 ที่นั่งมาแล้ว

"พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของเขา(ปชป.) เขาอยู่ 65 ปี พรรคเพื่อไทยอยู่มาแค่ 2 ปี แต่ตอนนี้ประสบปัญหาภัยพิบัติมีคนเดือดร้อนจำนวนมาก ถ้าอยู่มาถึง 65 ปี แล้วปล่อยให้สถานการณ์เป็นอย่างนี้ ผมว่าไปกระโดดแม่น้ำตาปีตายซะดีกว่ามาบริหารประเทศ" พล.อ.ชวลิต กล่าวในการสัมมนาผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่ผลโพลล์ระบุว่าพรรคฯ มีความได้เปรียบในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ แต่ก็หนักใจในบางพื้นที่ เช่น ภาคตะวันออก แต่น่าแปลกใจคือในพื้นที่กรุงเทพฯ มีประชาชนอยากเลือกพรรคเพื่อไทยให้เข้ามาทำงานมากที่สุด ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่เป็นคนภาคอีสาน ดังนั้นจึงเท่ากับว่าพรรคเพื่อไทยมีคะแนนเสียงถึง 3 ส่วนของประเทศ และสิ่งสำคัญคือต้องดำเนินการตามยุทธศาสตร์และปรับปรุงในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเชื่อว่าหากพรรคดำเนินการตามยุทธศาสตร์จะมีโอกาสได้ที่นั่งเพิ่มและกลับมาบริหารประเทศ

พล.อ.ชวลิต มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะได้รับที่นั่งเพิ่มในพื้นที่ภาคใต้ หากผู้สมัครทุ่มเทและมีความจริงใจ และการเสนอตัวเข้าทำงานในพื้นที่ภาคใต้ก็เพราะต้องการช่วยเหลือประชาชนให้หลุดพ้นจากปัญหาซ้ำซาก ดูแลประชาชนให้ดีที่สุดไม่ใช่แก่งแย่งกับใคร

แต่เมื่อถามถึงการประเมินที่นั่ง ส.ส.สัดส่วน 125 ที่นั่งที่จะได้รับจากการเลือกตั้งครั้งนี้ พล.อ.ชวลิต กล่าวอย่างติดตลกว่า "แค่ 124 ที่ก็พอ"

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคจะมีการพิจารณาหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่จะมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย

ส่วนตำแหน่งหัวหน้าพรรคที่จะชูเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นจะเป็นใครขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค แต่ที่ผ่านมาพรรคฯ เคยมอบหมายให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ทำหน้าที่มาแล้วในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหา

"หากพรรคเห็นว่าใครเหมาะสม ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ที่จะชูเป็นนายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าพรรค" พล.อ.ชวลิต กล่าว

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ส่วนการลงสมัครรับเลือกตั้งของตนเองนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่าจะลงสมัครในแบบสัดส่วน แบ่งเขต หรือไม่ลงสมัครเลย แต่เชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน แม้ช่วงนี้จะมีกระแสข่าวเรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะนักการเมืองทุกคนแม้จะมีความขัดแย้งแต่ก็ต้องการให้มีการจัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม และรักษาระบอบประชาธิปไตยไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ