กองทัพภาค 2 เผยชายแดนไทย-กัมพูชาไม่มีเหตุปะทะแล้ว คาดยุติเร็วๆนี้

ข่าวการเมือง Monday May 2, 2011 16:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 แถลงถึงสถานการณ์การสู้รบบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ที่จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์ว่า ตลอดทั้งวันที่ 1 พ.ค.54 จนถึงเช้าวันที่ 2 พ.ค.54 มีเสียงปืนดังขึ้นบ้างประปรายตามแนวชายแดนที่มีการวางกำลังอยู่ใกล้กัน แต่ไม่มีการปะทะตอบโต้กันเกิดขึ้น โดยเสียงปืนดังขึ้น 2 - 3 นัดก็หยุดไป ประมาณ 3 - 4 ครั้ง ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นการปะทะ ทำให้สรุปได้ว่าสถานการณ์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ถึงเวลา 11.00 น.วันที่ 2 พ.ค. สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังคงเป็นปกติ และหากเหตุการณ์ยังคงทรงตัวอยู่อย่างนี้ต่อไปทุกอย่างก็น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววันนี้

ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าทางทหารฝ่ายกัมพูชามีการเจรจาขอหยุดยิงเพื่อเข้ามาเก็บศพทหารภายในพื้นที่การสู้รบ เนื่องจากทหารฝ่ายกัมพูชาเสียชีวิตเป็นจำนวนมากและศพเริ่มมีกลิ่นเหม็นนั้น น่าจะเป็นความเข้าใจคาดเคลื่อน เพราะยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่การเดินทางไปพบปะกับผู้บังคับหน่วยทหารของฝ่ายกัมพูชาเมื่อวันที่ 1 พ.ค.2554 โดย พ.อ.ณัฐ ศรีอินทร์ รองเสนาธิการกองกำลังสุรนารี ที่ได้นำผู้บังคับหน่วยและผู้บังคับกองพันทหารในพื้นที่ ไปพบปะกับผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 และผู้บังคับหน่วยในระดับพื้นที่ของฝ่ายกัมพูชา ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม และพื้นที่ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย ไม่ได้มีการพูดคุยหรือเจรจาในกรณีนี้ มีเพียงการหารือเพื่อหาทางยุติการปะทะกัน ตามที่แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยและผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชาได้พูดคุยตกลงกันอย่างไม่เป็นทางการ เนื่องจากหลังจากการพูดคุยกันในครั้งนั้นก็ยังคงมีการปะทะกันอยู่อย่างต่อเนื่อง

และผลจากการหารือก็ได้รับทราบว่าเกิดจากความหวาดระแรงต่อกันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย เพราะมีการปะทะกันมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการวางกำลังเผชิญหน้าอยู่ใกล้กัน ซึ่งในเรื่องนี้ผู้บังคับหน่วยทหารทั้ง 2 ฝ่ายมีข้อยุติร่วมกันว่าจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ชุดประสานการปฏิบัติงานร่วมกันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย โดยหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อจากนี้ไปก็ให้ชุดประสานงานดังกล่าวประสานงานร่วมกันเพื่อเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ร่วมกัน เพื่อให้ทราบถึงเหตุผลที่แท้จริงและนำมากำหนดเป็นมาตรการแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป

" หลังการพูดคุยก็ส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ จนไม่มีการปะทะกันเกิดขึ้น คาดว่าสถานการณ์มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะท่าทีของผู้บังคับหน่วยทหารในระดับต่างๆของฝ่ายกัมพูชาเองก็ต้องการที่จะให้เหตุการณ์สงบลงเช่นเดียวกัน "โฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ