"ทักษิณ"บอกกับชาวบ้านจะกลับมาเมืองไทยเพื่อร่วมงานปีใหม่ในช่วงปลายปีนี้

ข่าวการเมือง Sunday May 8, 2011 19:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อผ่านโปรแกรมสไกป์มาทักทายผู้ที่มาร่วมงานเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ซึ่งจัดขึ้นที่วัดสะพาน เขตคลองเตย โดยระบุจะเดินทางกลับมาประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้

"อย่างไรสิ้นปีนี้ก็กลับประเทศไทยแน่ อยากมาจัดงานปีใหม่ที่เขตคลองเตยด้วย" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวมายังเวทีเสวนารวมใจแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งมีแกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.) มาร่วมงานหลายคน เช่น นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธาน ส.ส.ภาค กทม, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม., นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย, นายยุรนันท์ ภมรมนตรี พร้อมกับเปิดตัวนายวรพงษ์ ตันติเวชนานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตคลองเตย และมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มาร่วมให้กำลังใจด้วย

สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางออกจากประเทศไทยแล้วไปพำนักในประเทศต่างๆ ตั้งแต่เดือน ส.ค.51 ซึ่งต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงทางการเมือง ได้ออกหมายจับในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก และคดีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ

อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยเกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้าราชการมีการซื้อขายตำแหน่งกัน โดยนำเงินที่ได้จากธุรกิจใต้ดินมาซื้อขายตำแหน่งตามที่ต้องการ แต่ทุกวันนี้การดำรงตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รัฐ หากต้องการที่จะก้าวหน้าในตำแหน่งก็ทำได้ยากลำบากต้องหาเงินไปจ่ายให้กับนักการเมืองจึงจะได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นจึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทำงานย่อหย่อน ไร้ประสิทธิภาพ

"น่าเห็นใจตำรวจที่ส่วนใหญ่อยากเป็นตำรวจที่ดี แต่ความที่อยากซื้อขายตำแหน่งก็ต้องไปรีดไถกับประชาชน เมื่อเติบโตแล้วก็เอาตำแหน่งมาหากิน ถามว่าเมื่อเติบโตแล้วเอาเงินไปให้ใคร คำตอบก็คือคนที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลทุกวันนี้ ก็คือคนที่ออกทีวีประจำทุกวันนั่นแหละ" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล ในเดือน ก.ย.-ต.ค.ที่เป็นฤดูการโยกย้ายตำแหน่ง ช่วงนั้นจะต้องจัดการเด็ดขาดกับข้าราชการที่ซื้อขายตำแหน่ง ถ้ามีต้องจัดการ อีกทั้งต้องปรับปรุงให้ข้าราชการเป็นผู้ทำงานรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง เพราะทุกวันนี้ข้าราชการตกเป็นทาสนักการเมืองในการแสวงหาผลประโยชน์

สำหรับนโยบายในการปราบปรามยาเสพติด ได้แก่ 1.จัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องซื้อขายตำแหน่ง 2. จัดการผู้เสพยาเสพติดโดยนำวิธีบำบัดมาใช้แทนการจับกุม 3.สั่งให้ผู้ค้ายาหยุดจำหน่ายทันที 4.สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน 5.ปราบปรามขั้นเด็ดขาด

"ทั้งหมดนี้จัดการภายใน 12 เดือนหรือ 1 ปี ซึ่ง 3 เดือนแรกจะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เตือนก่อนประมาณ 3 เดือน อีก 3 เดือนวางหลักการในการจับกุม หลังจากนั้นจึงเริ่มขันน็อตอย่างจริงจัง" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

อดีตนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตประธาน ส.ส.เพื่อไทย ได้ยื่นใบลาออก ว่า พล.อ.ชวลิต จะยังไม่ไปไหน ยังอยู่บ้าน มีอะไรก็ปรึกษากันอยู่ ยังอยู่ช่วยงานกับพรรคเพื่อไทย ส่วนตัวได้พูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต แล้ว เพียงแต่ตอนนี้อยากพักผ่อนสักระยะหนึ่ง

อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้การเมืองกลายเป็นเรื่องของอาชีพ บางคนมีเงินเป็น 10 ล้าน บริหารธุรกิจไม่เป็นก็ต้องเข้ามาสู่การเมืองเพื่อมาแสวงหาประโยชน์ ทำให้มีเงินเป็นหมื่นล้านจนสามารถตั้งพรรคเองได้ ทำให้นักการเมืองทุกวันนี้ไม่มีคุณธรรมและจรรยาบรรณ ทำให้สุดท้ายประชาชนต้องเสียผลประโยชน์

"การเลือกตั้งที่จะถึงนี้มีการซื้อเสียงดุหน่อย เพราะมีเงินกันเยอะ แต่เงินที่ได้มาคือภาษีจากประชาชน คนพวกนี้เมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งก็นำเงินตรงนี้มาแสวงหาประโยชน์อยู่เรื่อย" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ