เลือกตั้ง"54: "ชาติไทยพัฒนา"เปิดตัว “กุญแจ 2 ดอก”สร้างรายได้-ขยายศก.

ข่าวการเมือง Tuesday June 7, 2011 14:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคจะเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการกระตุ้นการเติบโตของสองธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในระบบเศรษฐกิจ คือรถยนต์ และ อสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง ด้วยการนำเสนอเงินกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยคงที่ 1% เป็นเวลา 10 ปี ผ่อนชำระรายเดือนเริ่มต้น 2,000 บาทคงที่ 10 ปี

นอกจากนั้น พรรคชาติไทยพัฒนายังอยากเห็นประชาชนที่ต้องการซื้อรถคันแรก ได้รับการยกเว้นภาษี และมาตรการอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ราคาลดลง 100,000 บาท เฉพาะการซื้อรถอีโคคาร์ และรถปิคอัพ ที่มีราคาไม่เกิน 1,000,000 บาท

และเมื่อดูตัวเลขของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง และธุรกิจรถยนต์ รวมถึงอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องอื่นๆ จะมีมูลค่าเกือบครึ่งหนึ่งของจีดีพี และสร้างงานให้กับคนไทยเกือบ 5 ล้านคน

           “วิธีเดียวที่เราจะขยายเศรษฐกิจของประเทศให้โต และเพิ่มรายได้ของประชาชนให้สูงขึ้น ในเวลาอันรวดเร็วก็คือ ต้องสนับสนุนและกระตุ้นการเติบโตของสองธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในระบบเศรษฐกิจของเรา เพราะ สองภาคธุรกิจนี้เป็นตัวที่สร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศมากที่สุด และมียอดส่งออกมากที่สุดด้วย”                         นายประดิษฐ์ กล่าว

นายประดิษฐ์ กล่าวว่า อยากเห็นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างได้รับการกระตุ้นให้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเมื่อธุรกิจนี้ฟื้นตัว ผลที่ตามมาและเห็นได้ทันทีก็คือ การจ้างงานเพิ่มขึ้น การสั่งซื้อวัตถุดิบต่างๆ เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปูนซีเมนต์ เหล็ก ท่อพลาสติก ไม้ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี ตู้เย็น หม้อหุงต้ม เครื่องซักผ้า เป็นต้น ทุกอย่างจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เงินจำนวนมากจะถูกอัดฉีดกลับเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และย้อนกลับเข้าไปในกระเป๋าของประชาชน นอกจากนั้นผลดีอีกเรื่องหนึ่งที่จะตามมาทันทีก็คือ รายได้ของรัฐก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็น VAT หรือ ภาษีจากกำไรของบริษัท และภาษีที่เก็บได้นี้ก็จะถูกนำกลับไปใช้ในการพัฒนาประเทศ ก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึงโครงการรัฐสวัสดิการที่จำเป็นต่างๆ

นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันนโยบายเศรษฐกิจส่วนใหญ่จะออกมาในแนว “ลด แลก แจก แถม” อย่างเดียว ซึ่งผมก็เข้าใจได้ว่า เรื่องแบบนี้ก็ต้องมีบ้าง เพราะบางอย่างอาจจะจำเป็น ที่ต้องช่วยชาวบ้านในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เราก็ต้องระลึกไว้ว่ามันไม่สามารถจะช่วยแก้ปัญหาในระยะยาวได้ ซ้ำยังจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศจนลง และจะฉุดให้คนจนลงยิ่งกว่าเดิม สุดท้ายก็จะทำให้ประเทศของเราตกอยู่ในฐานะที่ลำบาก

“ที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับนโยบายนี้ก็คือ นโยบายนี้ไม่เพียงจะส่งผลดีต่อประชาชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย ในรูปแบบของ “ช่วยทุกคนวันนี้ เพื่อช่วยชาติวันหน้า” ซึ่งนโยบายที่ดีเช่นนี้มีให้เห็นไม่มากนัก” นายประดิษฐ์ กล่าว

นอกจากนี้ นโยบายกุญแจ 2 ดอก ยังเป็นวิธีที่ดีในการสร้างนิสัยการออมให้กับประชาชน และเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถกู้ซื้อบ้านได้สูงสุดถึง 3,000,000 บาท ระยะเวลากู้ยืมนานถึง 30 ปี โดยทุกคนสามารถที่จะผ่อนรายเดือนได้อย่างสบาย

“นโยบายที่อยากจะเห็นทุกคนมีกุญแจ 2 ดอกอยู่ในกระเป๋า ด้วยการทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านคงที่ 1% นาน 10 ปี นอกจากจะลดปัญหาค่าครองชีพที่นับวันจะสูงขึ้นได้ทันทีแล้ว คนที่ซื้อบ้านก็ไม่ต้องกลัวว่าค่าผ่อนบ้านจะเพิ่มขึ้น เพราะ ถ้าเราคิดว่า เงินที่นำมาใช้ผ่อนบ้านคือค่าเช่าห้อง สิ่งที่พรรคจะทำ เท่ากับเป็นการหยุดการขึ้นค่าเช่าห้องไปเลยเป็นเวลา 10 ปี และมากกว่านั้น เมื่อผ่อนไปจนครบกำหนดเขาก็ยังได้เป็นเจ้าของบ้าน เจ้าของทรัพย์สิน ที่จะเป็นมรดกตกทอดให้กับลูกหลานได้ด้วย” นายประดิษฐ์ กล่าว

“คนทั่วไปที่มีรายได้เดือนละ 6,000 บาท สามารถจะขอกู้เงินเพื่อซื้อบ้านราคาหลังละ 500,000 บาท โดยจ่ายค่าผ่อนบ้าน พอๆ กับค่าเช่าห้องที่ต้องเสียเป็นประจำทุกเดือน” นายประดิษฐ์ กล่าว

นายประดิษฐ์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมรถยนต์สามารถที่จะเจริญรุ่งเรืองได้อีก และทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตไปได้อีก ถ้ามีการปรับขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ให้เรียบง่าย และคล่องตัว และเมื่ออุตสาหกรรมนี้แข็งแกร่งขึ้น และมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะเพิ่มความ ร่ำรวยให้กับคนไทยทุกคนอย่างยั่งยืน

"ไม่ว่าเราจะมีวิกฤติเศรษฐกิจเกิดขึ้น ทั้ง “ต้มยำกุ้ง” หรือ “วิกฤติแฮมเบอเกอร์” รถยนต์กลับเป็นอุตสาหกรรมที่จะคอยช่วยเหลือระบบเศรษฐกิจของประเทศมาโดยตลอด จนถึงวันนี้รถยนต์ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุด และมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 5 แสนล้านบาท” นายประดิษฐ์ กล่าว

“เราจะขจัดสิ่งต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอน ระบบราชการ และเอกสารที่ไม่จำเป็น รวมถึงความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาล ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อแผนการลงทุนระยะยาวของอุตสาหกรรมรถยนต์ … พวกเราก็รู้กันอยู่แล้วว่าประเทศอินโดนีเซียได้ประกาศตัวว่าเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญ เขาก็เหมือนกับเสือหิว ที่พร้อมจะตะปบ และดึงผู้ผลิตรถยนต์ที่อยู่ในเมืองไทยได้ตลอดเวลา ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์บอกกับผมว่าเขาจะไม่ไปไหน และเขาจะลงทุนในไทยต่อไป ขอเพียงแค่ให้เขาสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้นเท่านั้นเอง ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ได้พยายามช่วยไปแล้ว โดยการให้หน่วยงานที่ผมเคยกำกับการดูแลคือ กรมศุลกากร และกรมสรรพากร ได้ปรับกระบวนการ ขั้นตอนการทำงานต่างๆ ให้กระชับ เรียบง่ายขึ้น ...แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีงานอีกเยอะที่ต้องทำ” นายประดิษฐ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ