"กษิต" ควงเลขาฯ รายงานนายกฯ กรณีศาลโลกนัดติดสินคดีพระวิหาร 18 ก.ค.นี้

ข่าวการเมือง Friday July 8, 2011 14:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และตนเองได้เข้ามารายงานนายกรัฐมนตรีกรณีที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ศาลโลก) กำหนดให้วันที่ 18 ก.ค.นี้เป็นวันตัดสินว่าจะมีคำสั่งตามคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของรัฐบาลกัมพูชาที่ต้องการให้ไทยถอนทหารออกจากพื้นที่โดยรอบประสาทเขาพระวิหารหรือไม่ โดยศาลโลกคงพิจารณาได้เพียงว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องแต่ละข้อของกัมพูชาเท่านั้น

ทั้งนี้ รมว.ต่างประเทศ จะนำคณะเดินทางไปยังศาลโลกที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 14 ก.ค.นี้ โดยเตรียมข้อต่อสู้ไว้ 3 ประเด็น คือ ศาลโลกไม่มีอำนาจในการตัดสินเรื่องนี้ และประเทศไทยได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลก ตั้งแต่ปี 2505 อย่างครบถ้วนทุกประเด็นแล้ว และขณะนี้ไม่มีความขัดแย้งในพื้นที่

"คิดว่าใน 3 ประเด็นนี้ที่เราชี้แจงต่อศาลโลกในช่วง 2 เดือนที่แล้วน่าจะทำความเข้าใจได้ และหวังว่าคำตัดสินคดีน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย" นายชวนนท์ กล่าว

เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า แม้จะเปลี่ยนรัฐบาลไปแล้ว แต่การรักษาแผ่นดินและอธิปไตยควรตรงกัน ตนเองเชื่อและหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังเข้ามาคงจะมีแนวทางที่ไม่แตกต่างกับรัฐบาลปัจจุบัน เพราะสิ่งที่เราดำเนินการตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ไม่มีเจตนาหรือนโยบายใดๆ ที่จะรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศ เพราะฉะนั้นเราหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ควรจะรักษาแนวทางเดียวกัน

หากคำตัดสินของศาลโลกเกี่ยวกับมาตรการชั่วคราวออกมาเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะมีผลในทางใดทางหนึ่งก็จะมีผลต่อคำร้องหลักที่จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนในการพิจารณา สิ่งที่รัฐบาลนี้ได้วางแนวทางนี้และมีการปรึกษาหารือกับที่ปรึกษากฎหมายชาวต่างชาติและผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเราทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่านี่เป็นแนวทางที่ถูก และหวังว่ารัฐบาลใหม่และ รมว.ต่างประเทศ คนใหม่ จะดำเนินการในทิศทางที่สอดคล้องกัน

ส่วนกรณีที่ไทยประกาศถอนตัวออกมาคณะกรรมการมรดกโลกนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า ประเด็นอยู่ทีว่าเหตุที่ไทยถอนตัวออกมาเพราะความคลุมเครือในการบูรณะซ่อมแซม ดังนั้นถ้ารัฐบาลชุดใหม่สามารถทำความเข้าใจกับคณะกรรมการมรดกโลกและกัมพูชาได้ว่าความชัดเจนคืออะไร เขาก็มีเหตุผลที่จะตัดสินใจไปในทางใดทางหนึ่ง แต่ขอให้อยู่บนเหตุผลในสิ่งที่เราได้ปฏิบัติมา และขอให้มีความชัดเจนในการรักษาอธิปไตย อีกทั้งตนเองขอฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ในเรื่องการจะลงนามใดๆร่วมกันว่าก็ต้องยืนยันว่าสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตแดนเท่านั้นระหว่างไทยกับกัมพูชาในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ