มติ ป.ป.ช.ชี้"คุณหญิงจารุวรรณ"กับพวกผิด ม.157 ใช้งบสัมมนาพาคนไปทอดกฐิน

ข่าวการเมือง Tuesday September 6, 2011 18:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางอาญาคุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กับพวก ใช้งบจัดสัมมนาพาบุคลากรของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ไปทอดกฐินที่ จ.น่าน

สืบเนื่องจากกรณีการกล่าวหาคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กับพวก จัดสัมมนาโครงการ "สตง.ในความคิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภา" เป็นเท็จ โดยมีวัตถุประสงค์นำบุคลากรของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2546 ณ จังหวัดน่าน

ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวโดยมีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการ

คณะอนุกรรมการไต่สวนได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยรวบรวมพยาน หลักฐาน และไต่สวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้วปรากฏข้อเท็จจริงฟังได้ว่า สตง.โดยคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้มีหนังสือถึงกรมการศาสนาแสดงความประสงค์จะขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินประจำปี 2546 ไปถวายพระสงฆ์จำพรรษา ณ วัดพญาภู และวัดพระธาตุช้างค้ำ อ.เมือง จ.น่าน

และ สตง.ได้มีคำสั่งลงวันที่ 1 สิงหาคม 2546 แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2546 ซึ่งได้กำหนดในวันศุกร์ที่ 31 ต.ค.46 ณ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร วัดพญาภู และวัดศรีพันต้น(วัดราษฎร์) อ.เมือง จ.น่าน โดยคณะกรรมการดำเนินการมี น.ส.วิไลลักษณ์ อัญมณีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นประธานกรรมการ และมีนายคัมภีร์ สมใจ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล เป็นรองประธานกรรมการ โดยให้คณะกรรมการพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานกฐินพระราชทานดังกล่าว รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องบรรลุวัตถุประสงค์

ต่อมาวันที่ 16 ต.ค.46 สำนักงานบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลโดยนายคัมภีร์ ได้ขออนุมัติจัดโครงการสัมมนาเรื่อง "สตง.ในความคิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภา" ในวันที่ 31 ต.ค.46 ระหว่างเวลา 08.30-18.30 น. ณ โรงแรมซิตี้ปาร์ค อ.เมือง จ.น่าน โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาจำนวน 175 คน วิทยากรโดยนายสันติภาพ อินทรพัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา และวิทยากรของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประมาณการค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 479,980 บาท และคุณหญิงจารุวรรณ ลงนามอนุมัติในวันเดียวกันคือ วันที่ 16 ต.ค.46

ระหว่างวันที่ 22-24 ต.ค.46 น.ส.วิไลลักษณ์ แจ้งว่า ได้มีการสำรวจรายชื่อผู้เข้าร่วมกฐินพระราชทาน ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่าย และค่าที่พักด้วยตนเองมีจำนวน 100 คนเศษ และเมื่อรวมกับผู้บริหารอีก 30 คนก็จะได้เพียง 130 คนเศษ จึงได้มีการหารือกันระหว่างคุณหญิงจารุวรรณ, นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้อำนวยการสำนักงานกฎหมาย, น.ส.วิไลลักษณ์ และนายคัมภีร์ ได้พิจารณาร่วมกันแล้วเห็นสมควรให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาเข้าร่วมพิธีกฐินพระราชทานก่อน เมื่อถวายผ้าพระกฐินพระราชทานเสร็จจึงกลับมาสัมมนาที่โรงแรมซิตี้ปาร์ค โดยรวมหัวข้อเช้าและบ่ายเข้าด้วยกัน เริ่มสัมมนาตั้งแต่เวลา 15.45-19.00 น. ซึ่งผู้เข้าร่วมหารือไม่มีผู้ใดคัดค้าน

ข้อเท็จจริงปรากฏว่า เมื่อถึงวันที่ 31 ต.ค.46 ผู้มีรายชื่อเข้าร่วมสัมมนา และผู้สังเกตการณ์เดินทางโดยรถโดยสารปรับอากาศ และรถตู้ไปเข้าร่วมงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทานตามกำหนดการถวายกฐินพระราชทานของ สตง.ช่วงเช้า ณ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร รับประทานอาหารกลางวันที่วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ช่วงบ่าย ณ วัดพญาภู และถวายกฐินสามัคคีของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ณ วัดศรีพันต้น

งานการถวายกฐินพระราชทานแล้วเสร็จประมาณ 16.00 น. คณะสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้เดินทางเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวในที่พักและเดินทางไปยังสโมสรหมู่บ้านสันติภาพ 2 เป็นสถานที่เปิดโล่ง ไม่มีหลังคาคลุม มีอาคารอยู่หนึ่งหลังมีลักษณะชั้นเดียว หลังคาเป็นระเบียง ข้างอาคารมีสระว่ายน้ำอยู่หนึ่งสระ มีการตกแต่งไฟ มีเครื่องขยายเสียง มีการจัดเวทีเขียนป้าย บนเวทีที่มิได้มีข้อความระบุว่ามีการสัมมนา แต่กลับมีข้อความว่า "ขอต้อนรับคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา และคณะ ด้วยความรักยิ่ง 31 ตุลาคม 2546" มีการจัดโต๊ะกลมแบบโต๊ะจีนหันหน้าเข้าหากัน แต่ละโต๊ะนั่งประมาณ 9-10 คน จัดอยู่ชั้นระเบียง และชั้นล่างรอบสระว่ายน้ำและพื้นที่ โดยรอบ

เมื่อผู้เข้ารับการสัมมนามาถึงสโมสรหมู่บ้านสันติภาพ 2 จะมีการลงทะเบียน ในรายชื่อผู้เข้าร่วมการสัมมนาเรื่อง "สตง.ในความคิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภา" วันที่ 31 ต.ค.46 ระบุสถานที่ว่า โรงแรมซิตี้ปาร์ค อ.เมือง จ.น่าน ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยเจ้าหน้าที่ สำนักงานบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลรับลงทะเบียนหน้าสถานที่จัดงาน ไม่มีการแจกเอกสารในการสัมมนา หรือการกำหนดกลุ่มให้ระดมความคิดเห็นแต่ประการใด

จากการไต่สวนฟังได้ว่าการจัดสัมมนาเรื่อง "สตง.ในความคิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภา" ไม่มีการสรุปผลการสัมมนาในครั้งนี้เป็นเอกสารแต่อย่างใด โดยปกติการจัดสัมมนาหากมีการเปลี่ยนแปลงวิทยากร เทคนิคการนำเสนอ และสถานที่รวมทั้งงบประมาณจะต้องทำการ เสนอขออนุมัติการเปลี่ยนแปลงกับผู้มีอำนาจ

"การที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินนำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษา ณ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร วัดพญาภู จังหวัดน่านในวันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2546 และทราบกำหนดการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2546 แต่ยังมีการจัดโครงการสัมมนาในวันเวลา เดียวกัน ซึ่งมีกลุ่มบุคคลที่เข้าร่วมงานกฐินพระราชทานเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันกับกลุ่มบุคคลผู้เข้าร่วม สัมมนา ย่อมเล็งเห็นได้ว่าไม่สามารถดำเนินการตามแผนงานได้ พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำโดยมีเจตนานำคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ไปถวายผ้าพระกฐิน พระราชทาน โดยจัดโครงการสัมมนาเพื่อให้ผู้ร่วมเดินทางสามารถเบิกค่าใช้จ่ายจากทางราชการได้โดยมิชอบ" เอกสารเผยแพร่ของ ป.ป.ช. ระบุ

คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, นายคัมภีร์ สมใจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล มีมูลความผิดทางวินัย ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตาม กฎหมาย ระเบียบของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 85 วรรคสอง และมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ส่วน น.ส.วิไลลักษณ์ อัญมณีรัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกฎหมาย ไม่มีหน้าที่ในการจัดสัมมนาดังกล่าว พฤติการณ์และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ยังฟังไม่ได้ว่าได้ร่วมกระทำผิด ข้อกล่าวหาไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหาตกไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยกับนายคัมภีร์ สมใจ และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ฟ้องคดีอาญาต่อศาลที่มีเขตอำนาจกับคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา และนายคัมภีร์ สมใจ ตามฐานความผิดดังกล่าวตาม พ.ร.บ.ประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 และมาตรา 97


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ