นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการ(กมธ.)การเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวก่อนการประชุมถึงการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการทำธุรกรรมและการชำระภาษีเกี่ยวกับการซื้อหุ้นมูลค่า 4,434.5 ล้านบาทของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า เป็นการรับเรื่องที่สืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการชำระค่าหุ้นผ่านการทำสัญญา ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋ว PN ซึ่งเห็นว่าในเรื่องนี้มีข้อสงสัยจากประชาชนว่า ในข้อเท็จจริงธุรกรรมลักษณะนี้ถูกต้องตามกฏหมายหรือทำได้หรือไม่ จึงทำให้กรรมาธิการเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตอบข้อซักถาม คือ กรมสรรพากร และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
นายสิทธิพล กล่าวต่อว่า เชื่อว่าวันนี้จะได้ข้อชัดเจนที่มากขึ้นอย่างน้อย 1.ถูกหรือผิดกฎหมาย ข้อไหนอย่างไร 2.ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจหลบเลี่ยงหรืออาศัยช่องว่างทางกฎหมายซึ่งมีผลกระทบต่อรายได้แผ่นดิน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินมีความคิดเห็นหรือข้อแนะนำประการใด 3.ความเร็วช้าส่วนราชการที่มีความรับผิดชอบโดยตรงต่อขอบเขตอำนาจหน้าที่ทางกฎหมาย ที่ต้องทำให้โปร่งใสชัดเจน คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในที่ประชุมกมธ.ฯวันนี้
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้ยื่นเรื่องให้กมธ. ตรวจสอบ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ไปยื่นหนังสือถึงกรมสรรพากรที่ขอให้ส่งเรื่องต่อไปไปยังคณะคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร เพื่อวินิจฉัยพฤติกรรมของน.ส.แพรทองธาร ที่ใช้ตั๋ว PN ซื้อหุ้นจากบุคคลใกล้ชิดหรือบุคคลในครอบครัว เป็นการสร้างรูปแบบการซื้อขายโดยที่ไม่ได้มีเจตนาซื้อขายหุ้นจริง ซึ่งการตั้งประเด็นถามคือถามเรื่องภาษีรับให้ ไม่ใช่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยพุ่งเป้าไปเรื่องของการทำนิติกรรมอำพรางภาษีการรับให้หรือไม่
"มีวัตถุประสงค์ในการหลีกเลี่ยงหรือหลบเลี่ยง การชำระภาษีการรับให้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ตอบ แต่เป็นการตอบที่ไม่ได้ถาม เพราะตอบว่าเดี๋ยวพี่สาว พี่ชาย แม่ ลุง ป้าสะใภ้ ถ้าชำระค่าหุ้นก็ต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งไม่ได้ถามในกรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะว่านั่นเป็นอีกกรณี ซึ่งก็ไม่ได้มีการชี้แจงว่าหากซื้อขายราคาทุนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่ต้องชำระ แต่ในกรณีนี้ตั้งคำถามว่าเข้าข่ายหรือถูกพิจารณาว่าเป็นนิติกรรมอำพราง เพื่อหลบเลี่ยงหรือหลีกเลี่ยงภาษีการรับให้หรือไม่" นายวิโรจน์กล่าว
นายวิโรจน์ เรียกร้องให้ กรมสรรพากรตรวจสอบ เพื่อเกิดความชัดเจน เพราะยังมีประชาชนที่กำลังจะโอนหุ้นบริษัทให้กับทายาทที่มีมูลค่าเกิน 20 ล้านบาทในปีภาษี อาจจะไม่โอน เพื่อไม่ต้องชำระภาษีการรับให้
"คำถามจากประชาชนทั่วไปว่าถ้าเอาโมเดลจากนายกรัฐมนตรีมาทำ ทางอธิบดีกรมสรรพากรต้องประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรว่าต่อไปนี้ให้ใช้ตั๋ว PN และทำแบบนายกฯ หรือจะตั้งชื่อว่า แพทองธารโมเดล เลยก็ได้ ก็ให้ดำเนินการก็ถือว่าเป็นระเบียบแพทองธารโมเดล ทุกคนก็ทำตามแพทองธารโมเดล แต่สรรพากรต้องรับสภาพว่านับแต่นี้เป็นต้นไปอาจจะไม่สามารถจัดเก็บภาษีการรับให้ได้เลย" นายวิโรจน์ กล่าว