นายกฯ ยันเอกภาพรัฐบาล-กองทัพแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา,ย้ำใช้เวทีทวิภาคี 14 มิ.ย.เจรจาลดแรงปะทะ

ข่าวการเมือง Friday June 6, 2025 12:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฯ ยันเอกภาพรัฐบาล-กองทัพแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา,ย้ำใช้เวทีทวิภาคี 14 มิ.ย.เจรจาลดแรงปะทะ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าประชุมร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา โดยยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพ มีการหารือสถานการณ์ร่วมกันอยู่ตลอด และสนับสนุนการทำงานกันอย่างดี การทำงานมีความเป็นเอกภาพ ซึ่งไม่อยากให้เกิดกระแสว่ารัฐบาลมีความไม่เข้าใจกับกับกองทัพ

"ทุกหน่วย ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะกองทัพ หรือรัฐบาล เราปรึกษากันก่อนที่จะดำเนินการใด ๆ ตลอด ว่าอำนาจไหนเป็นของใคร ทราบหน้าที่ของตัวเองดี สิ่งที่ต้องการคือความเป็นเอกภาพในการทำงานทั้งหมด ไม่อยากให้เกิดกระแสหรือการปลุกปั่นใดๆ ว่ารัฐบาลหรือกองทัพมีปัญหากัน ซึ่งจริง ๆ ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น และทำงานสนับสนุนกันอย่างดี อำนาจหน้าที่ก็เคลียร์กันได้หมด ว่าถ้าหน้างาน กองทัพสามารถตัดสินใจได้เลย" นายกรัฐมนตรีกล่าว

พร้อมยืนยันว่า สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ได้มีการขยายความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้ทางกองทัพก็ยืนยัน มีการจำกัดวงเพื่อไม่ให้ขยายความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลสนับสนุนอยู่แล้ว

"กองทัพก็ยืนยันแล้วว่า เหตุการณ์ทุกอย่าง เตรียมพร้อมทุกรูปแบบทุกๆสถานการณ์ ซึ่งกองทัพทราบอยู่แล้วว่า เหตุการณ์หน้างานเป็นอย่างไร ถึงเวลาที่ต้องปะทะหรือยัง และเป็นการตัดสินใจของกองทัพ ที่ให้หน้างานดูเลยว่า ต้องปะทะหรือไม่ แต่หากยังไม่จำเป็น การที่จะปะทะไปจะเกิดความเสียหาย มากกว่าแรงเชียร์ที่ต้องการให้เกิดการปะทะ ตรงนั้นต้องใช้สันติวิธีให้ได้มากที่สุด ทุกตอนนี้ไม่มีใครช้าในเรื่องนี้ ทุกคนทำกันหมดแล้ว และคุยกันหมดแล้ว อยู่ที่ว่าจะฟังส่วนไหนไม่ฟังส่วนไหนมากกว่า และรัฐบาลก็มีการออกแถลงการณ์ไป 2 ฉบับในการดำเนินการและแนวทางที่ประเทศไทยจะไปต่อ" นายกฯ กล่าว

  • กลาโหม ยันหลักการปกป้องอธิปไตยควบคู่รักษาสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ย้ำจุดยืนในหลักการปกป้องอธิปไตยของประเทศ และดำรงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดย 3 ประเด็นหลักที่หารือกันในที่ประชุม สมช.วันนี้ คือ 1.ด้านต่างประเทศ 2.ด้านกองทัพ และ 3.ด้านการสื่อสาร ซึ่งมาปรับการทำงานร่วมกันให้มีความชัดเจนมากขึ้น

โดยในส่วนของกองทัพนั้น พร้อมรักษาเอกราชและอธิปไตยของประเทศ ส่วนเรื่องการสื่อสาร ได้ตกลงกันแล้วว่าให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพหลัก ซึ่งจะประสานโฆษกกลาโหม และโฆษกกองทัพบกให้มาร่วมกันด้วย และให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เข้ามาร่วมดูแล เพื่อไม่ให้บรรยากาศการเจรจาหาข้อสรุปเกิดขึ้นด้วยความยากลำบาก

"ยืนยันว่า เราเห็นพ้องต้องกันว่า เรื่องอธิปไตยเป็นเรื่องหลักที่เราต้องดูแลอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องอื่น ๆ จะประคองให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี และไม่ให้เสียประโยชน์ต่อประเทศเรา และประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด เพราะเรามีความจำเป็นที่ต้องร่วมมือกันอีก ซึ่งตามชายแดนมีเรื่องที่ต้องร่วมมือกัน ทั้งยาเสพติด ภัยไซเบอร์ ดังนั้นความขัดแย้งอยากให้จำกัดวงให้มากที่สุด" นายภูมิธรรม กล่าว

  • รมว.กต. ย้ำ ใช้กลไกทวิภาคีลดความรุนแรง

ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การประชุมสมช.วันนี้ เพื่อให้เกิดการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ ซึ่งการต่างประเทศและการทหารต้องไปเป็นเนื้อเดียวกัน ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเราเห็นพ้องกันว่าการเจรจากับกัมพูชา จะใช้กลไกที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นหลัก นั่นคือระดับทวิภาคี โดยเฉพาะที่ผู้นำสองฝ่ายได้คุยกันมาตั้งแต่ต้น

"การใช้กลไกที่มีอยู่แล้ว เช่น JBC RBC GBC เป็นกลไกหลักขณะนี้ และเป้าหมายการเจรจา โดยเฉพาะที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นั้น คณะกรรมการร่วมของทั้งสองฝ่ายจะเน้นเรื่องจุดที่ปะทะ แก้ปัญหาการกระทบกระทั่งกันเป็นหลักเสียก่อน เรื่องอื่น ๆ เรายังไม่ให้ความสำคัญในขณะนี้ จะพูดเรื่องการแก้ปัญหาการเผชิญหน้า และลดความตึงเครียดในกรอบของกำลังทหารร่วมกันให้เป็นเรื่องเป็นราวก่อน" นายมาริษ กล่าว

พร้อมย้ำว่า JBC มีหน้าที่เจรจาเรื่องเขตแดน ดังนั้นจะดำเนินการไปพร้อมกัน แต่ priority จะเป็นการพูดคุยเพื่อลดความรุนแรง และลดบรรยากาศที่จะมีการกระทบกระทั่งกันเป็นหลักก่อน ซึ่งการชี้แจงจะมีการประสานความร่วมมือกันกับกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพบก ร่วมกับกระทรวงกลาโหม เพื่อให้การสื่อสารแก่ประชาชนให้เข้าใจ ทุกอย่างไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมระบุว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดเรื่องข่าวสารมากยิ่งขึ้นกว่านี้ และยืนยันว่า การทหารและการต่างประเทศไปด้วยกันอย่างแน่นอน


  • กองทัพสนับสนุนนโยบายรัฐบาลแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี

พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวว่า กองทัพสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนด้วยแนวทางสันติวิธี และยืนยันว่ากองทัพจะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องอธิปไตยของชาติและความปลอดภัยของประชาชน

สำหรับการประชุมระหว่างเหล่าทัพที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ เป็นการประชุมที่มีอยู่แล้วตามวงรอบทุกสองเดือน และจะมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในปัจจุบัน โดยกองทัพได้ย้ำถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาล โดยเฉพาะกับกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม การที่ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งคุมกำลังหลักไม่ได้เข้าร่วมการประชุม สมช.ด้วยตนเองนั้นจะไม่เกิดปัญหาใด ๆ เนื่องจากการประชุม วง สมช. มีโครงสร้าง เสนาธิการทหารบกเป็นผู้มาร่วมประชุม และเสนอข้อมูลต่าง ๆ






เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ