
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมแพทยสภาว่า การประชุมวันนี้จะมีการพิจารณาความเห็นของตน ที่ได้ยับยั้งมติการลงโทษแพทย์ทั้ง 3 คน เพื่อลงมติว่ายังยืนยันความเห็นเดิมหรือไม่ ซึ่งตนในฐานะสภานายกพิเศษ จะใช้อำนาจตามมาตรา 24 ของ พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ที่ระบุให้สภานายกพิเศษจะเข้าฟังการประชุม และชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการ หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังแพทยสภาในเรื่องใด ๆ ก็ได้
โดยขอเท้าความว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.68 คณะกรรมการแพทยสภาลงมติลงโทษหมอ 3 คน คือ 1.พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ ถูกสั่งลงโทษว่ากล่าวตักเตือน 2.พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ถูกสั่งลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และ 3.พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ ถูกสั่งลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามมาตรา 25 ดังนั้นการลงโทษต้องเสนอเรื่องให้สภานายกพิเศษแพทยสภา เห็นชอบตามมาตรา 25
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีเวลาพิจารณาเพียง 15 วันหลังจากแพทยสภาเสนอเรื่องมา จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ขึ้นมา 1 ชุด เพื่อช่วยทบทวนมติดังกล่าว เนื่องจากมีเวลาสั้น และตนไม่ได้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
จากนั้นตนได้เรียกเอกสารเพิ่มเติมจากแพทยสภาไปอีก 3 ครั้ง มีทั้งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ที่ไม่ได้ คือเอกสารการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองจริยธรรม ด้วยเวลาที่จำกัดจึงพิจารณาตามเอกสารที่มี และวีโต้มติแพทยสภากลับไป ตามอำนาจในมาตรา 25 พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ซึ่งชี้แจงเหตุผลว่าทำไมแพทย์ไม่ควรถูกลงโทษ
ดังนั้น วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่กรรมการแพทยสภา จะได้รับฟังเหตุผล และทำความเข้าใจในรายละเอียดที่ตนใช้อำนาจยับยั้งมติดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญก่อนที่จะพิจารณาลงมติวันนี้ และนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ตนต้องเดินทางมาร่วมประชุม เพื่อชี้แจงด้วยตัวเอง
"ช่วงเวลาที่ผ่าน ผมถูกโจมตี ทั้งถูกข่มขู่จะให้แพทย์ลงชื่อถอดถอนผมจาก รมว.สาธารณสุข ไปจนถึงจะให้ ป.ป.ช.มาเอาผิด แม้กระทั่งเมื่อวานนี้ ยังมีกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม มากดดันผมถึงกระทรวงสาธารณสุข และให้กำลังใจแพทยสภา รวมทั้งกล่าวหาผมว่าจะเข้าร่วมประชุมเพื่อกดดันมติแพทยสภา ทั้งที่ตามมาตรา 24 ของ พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรมฯ ให้อำนาจไว้
ขอยืนยันว่า ทุกอย่างที่ทำ ผมยืดหลักกฎหมาย แต่การกล่าวหานั่นต่างหาก คือ การบิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิดในตัวผม เป้าหมายการทำหน้าที่ของผม ไม่ใช่เพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เพื่อเป็นการคุ้มครอง และให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ที่ถูกลงโทษ และคงไว้ซึ่งมาตรฐานการลงโทษที่เหมาะสม และควรจะเป็นเท่านั้น" นายสมศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ การทำหน้าที่ของแพทยสภาในสายตาประชาชน ก็สะท้อนออกมาจากผลสำรวจความคิดเห็นจากนิด้าโพล พบว่า 38.40% ไม่ค่อยเชื่อมั่น 15.95% ไม่เชื่อมั่นเลย ซึ่งเท่ากับไม่มีความเชื่อมั่นกว่า 54%
"ขอให้การทำงานในวันนี้ ยึดความเป็นธรรมในวิชาชีพ เราต้องเรียกความศรัทธาของประชาชน และสังคมกลับมาให้ได้ อย่าปล่อยให้สังคมมองว่าเราไม่มีความเป็นธรรม หรือใช้องค์กรเพื่อทำลายวิชาชีพกันเอง" รมว.สาธารณสุข กล่าวในฐานะสภานายกพิเศษ