ศบ.ทก. ย้ำมาตรการยกระดับคุมผ่านแดนเน้นจำกัดคนเข้าออก ยันไม่ได้ปิดด่าน

ข่าวการเมือง Tuesday June 24, 2025 18:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดยย้ำว่า มาตรการการยกระดับการควบคุมการผ่านแดนไม่ใช่การปิดด่าน ตามที่มีรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อน​ ในขณะนี้ทุกจุดผ่านแดนยังคงเปิดทำการไม่ว่าจะเป็นจุดผ่านแดนถาวร​ หรือจุดผ่านแดนชั่วคราว​ หรือจุดผ่อนปรนทางการค้า แต่มีการจำกัดการเข้าที่เข้มข้นขึ้น​ ซึ่งทั้งหมดนี้ยังคงเป็นการบังคับใช้มาตรการขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 จากทั้งหมด 4 ขั้นตอน ฝ่ายไทยยังคงอนุญาตให้กับบุคคลที่มีความจำเป็น​ และด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม​ เช่น ผู้ที่ต้องการรับการรักษาพยาบาล​ และนักเรียน รวมถึงการดำเนินการที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน เช่น การซื้อผัก​ ผลไม้และเครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือน

นายนิกรเดช​ ยืนยันว่า​ รัฐบาลไทยยังไม่มีนโยบายห้ามการส่งออกไฟฟ้า​ น้ำมัน​ และสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังกัมพูชา​ ในขณะที่รัฐบาลกัมพูชาเองเป็นฝ่ายที่ตัดสินใจระงับการนำเข้าน้ำมันจากไทย​ สำหรับฝ่ายไทยมีจุดยืนที่ชัดเจนไม่ต้องการดึงประชาชนทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชามาเป็นผู้รับภาระจากปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างรัฐ ส่วนประกาศการยกระดับมาตรการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การระงับการส่งออกไฟฟ้าน้ำมันและสินค้า​ ที่อาจถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ

พร้อมย้ำว่า มาตรการล่าสุดของฝ่ายไทย​ เป็นมาตรการที่ดำเนินควบคู่ไปกับการดำเนินการของศบ.ทก.ที่มีจุดมุ่งหมายโดยตรงต่อธุรกิจเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเป็นหลัก​ ไม่ได้มีเป้าหมายไปยังประชาชนทั่วไป​ แต่เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในบริเวณชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ

ขณะที่การแสดงความคิดเห็นเชิงลบในบัญชี โซเชียลมีเดียของทางกัมพูชา การแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่พึงจะกระทำได้​ แต่ขอความร่วมมือของประชาชนชาวไทยไม่แสดงความเห็นที่เป็นการยั่วยุหรือรุนแรง​ สุดโต่ง​ เพื่อไม่สร้างความตึงเครียดเพิ่มเติมให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ​ โจมตีซึ่งกันและกัน

ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงยึดมั่นในการแก้ไขปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี ซึ่งการแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ของประชาชนในช่องทางต่าง ๆ จะช่วยส่งเสริมบรรยากาศที่เอื้อการหาทางออกร่วมกันของทั้งสองฝ่าย

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพไทย และรองโฆษกกองทัพไทย กล่าวในประเด็นด้านความมั่นคงว่า การดำเนินการของกองทัพโดยในคำสั่งของกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด​ เป็นไปในแนวทางเดียวกันตามข้อสั่งการของรัฐบาลที่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ โดยยังอนุญาตให้ผ่านเข้าออกแก่บุคคลที่มีความจำเป็นเช่น การส่งต่อผู้ป่วย และด้านการศึกษาของนักเรียน และการดำเนินการที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด​ ในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน​ โดยอาศัยตามหลักมนุษยธรรม

ขณะเดียวกันยังมีการหารือถึงการเยียวยาของผู้ที่ได้รับผลกระทบตามแนวพื้นที่ชายแดนรัฐบาลจะใช้กลไกที่มีอยู่แล้วเช่น กระทรวงมหาดไทย​ โดยศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดจะประชุมร่วมกับหอการค้า​จังหวัด​ สภาอุตสาหกรรมจังหวัด​ และภาคเอกชนในพื้นที่เพื่อกำหนดแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบในส่วนของกระทรวงแรงงาน​ ได้มีข้อจำกัดให้แรงงานจังหวัดช่วยเหลือ​ จัดหางานทดแทน​ สำหรับประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางข้ามแดนได้ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดช่วยเหลือประชาเกษตรกรและการหาช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรในพื้นที่



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ