ศาลรัฐธรรมนูญ นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในคดีที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาชนจำนวน 121 คนเข้าชื่อยื่นให้วินิจฉัยกรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นผู้เห็นชอบให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีคำขอเสนอจำนวน 3 โครงการในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาคดีดังกล่าวแล้วเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ได้รับการพิจารณาเสร็จสิ้นและเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับแล้ว ไม่อยู่ในขั้นตอนของการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายในกระบวนการทางนิติบัญญัติ ไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องในส่วนนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย
ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (8 ต่อ 1) มีคำสั่งรับคำร้องในส่วนนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบพร้อมทั้งส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้อง เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับความเห็นของของไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
โดยศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคลในวันที่ 24 ก.ค.68 เวลา 10.00 น. หากผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดีให้ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีเป็นหนังสือภายในวันที่ 29 ก.ค.68 โดยให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลภายในวันที่ 21 ก.ค.68 และไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ให้คู่กรณีมารับเอกสารจากเจ้าหน้าที่ของศาลรัฐธธธรมนูญ ณ ที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ ภายในเวลาที่กำหนดแทนการส่งเอกสารให้แก่บุคคลนั้น
ส่วนคำขอให้กำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำวินิจฉัย กำหนดให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 อยู่ในระหว่างการพิจารณาจึงให้ยกคำขอส่วนนี้
ส่วนคำขอให้กำหนดให้ผู้เกี่ยวข้องระงับการใช้เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายของโครงการทั้ง 3 โครงการตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รับการจัดสรร ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าเมื่อมีคำสั่งไม่รับคำร้องเกี่ยวกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จึงให้ยกคำขอส่วนนี้ด้วย