ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 พ้นจากตำแหน่ง สส.เขต 7 จังหวัดเชียงราย นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.68 เนื่องจากมีพฤติกรรมฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญกรณีแปรญัตติงบประมาณไปใช้ในโครงการที่เกิดประโยชน์ต่อพื้นที่เลือกตั้งของตัวเองและพรรคการเมืองที่สังกัด พร้อมทั้งให้เพิกถอนสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี และให้จัดการเลือกตั้ง สส.แทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก (5 ต่อ 4) วินิจฉัยว่า นายพิเชษฐ์ มีส่วนในการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใด ๆ เกี่ยวกับโครงการเยาวชน โครงการประชาชน และโครงการสตรี ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 และมีมติเสียงข้างมาก (6 ต่อ 3) วินิจฉัยว่า มีการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย อันเป็นการกระทำที่ฝ้าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง และให้การเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใด ๆ เกี่ยวกับโครงการทั้งสาม
"วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย คือ วันที่ 1 สิงหาคม 2568 และให้ถือว่าวันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยเป็นวันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งว่างลงตามรัฐธรรมนูญ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง มีกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญญูมีคำวินิจฉัย" คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ระบุ
คดีนี้สืบเนื่องจากนายภัณฑิล น่วมเจิม สส.พรรคประชาชน และพวกรวม 121 คน ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ยื่นคำร้องเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิเชษฐ์เป็นผู้ให้ความเห็นชอบการจัดทำโครงการและให้มีการเสนองบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 3 โครงการ ที่นายพิเชษฐ์มีส่วนโดยทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และในกรณีที่สำนักงานเลขาธิการทนราษฎรมีคำขอเสนอโครงการทั้ง 3 โครงการดังกล่าวอีกครั้ง ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2569 เป็นการเสนอของบประมาณด้วยโครงการที่มีรูปแบบเดียวกันและต่อเนื่อง อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสองหรือไม่
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา ถือเป็นบทเรียนที่ สส.ทุกคนต้องพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการมีส่วนได้ประโยชน์จากการใช้งบประมาณแผ่นดิน
ส่วนกรณีของนายพิเชษฐ์ จะถูกโยงเข้ากับความผิดของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ถูกยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบกรณีโยกงบประมาณทำดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนละประเด็น เพราะ ครม. มีอำนาจและหน้าที่ดำเนินการฐานะเป็นฝ่ายบริหารและพิจารณาถึงการใช้งบประมาณโดยทั่วไปไม่ได้เจาะจงเฉพาะพื้นที่ เหมือนกรณีของนายพิเชษฐ์ ที่มีสถานะอยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติ และใช้งบประมาณในพื้นที่เลือกตั้ง
ทั้งนี้ หลังจากนายพิเชษฐ์ ถูกถอดถอนจากสส.เชียงราย ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะต้องหารือในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง รวมถึงการหาบุคคลให้มาดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ที่ว่างลง ซึ่งต้องเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการภายในพรรค