ดีอี เคาะ 5 มาตรการปราบเฟคนิวส์-บัญชี IO เร่งตรวจสอบภายใน 3 ชั่วโมง

ข่าวการเมือง Thursday August 7, 2025 14:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดีอี เคาะ 5 มาตรการปราบเฟคนิวส์-บัญชี IO เร่งตรวจสอบภายใน 3 ชั่วโมง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันข่าวปลอมว่า ที่ประชุมได้ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อขอความร่วมมือในการปราบปรามข่าวปลอม และ บัญชีผู้ใช้งานต้องสงสัย (Account IO) โดยมีการกำหนดมาตรการการแก้ไขปัญหาร่วมกัน 5 มาตรการสำคัญดังนี้

1.การจัดลำดับความสำคัญกับข่าวที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความมั่นคงชายแดนให้เป็นอันดับความสำคัญสูงสุด (Priority) ในการสนับสนุนการจัดการข่าวปลอม

2. การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ตรวจจับรวบรวมข่าวปลอมที่มีการยืนยันแล้วและดำเนินการปิดกั้น (Take Down) ข่าวปลอมในทุกช่องทางแพลตฟอร์ม

3. การเพิ่มปริมาณเจ้าหน้าที่สนับสนุนเพื่อรองรับการดำเนินการตามมาตรการการจัดการข่าวปลอม และแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์จะมีการพัฒนา AI ในการตรวจจับบัญชีผู้ใช้งาน ที่ระบุว่าเป็นบัญชีผู้ใช้ที่เป็นบุคคลสาธารณะปลอม (Fake Account)

4. กระบวนการดำเนินการด้าน "ปฏิบัติการข่าวสาร (IO)" บริหารจัดการข่าวในด้านจิตวิทยา หากมีการตรวจพบ จะดำเนินการส่งให้ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA เพื่อแจ้งแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ดำเนินการระงับเผยแพร่

5. การยกระดับการยืนยันตัวตนของแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ (Account Verification) โดยผู้ที่จะลงโฆษณาต้องเป็นบริษัทฯ ซึ่งมีการยืนยันตัวตน ที่ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว และจะยกระดับการดำเนินการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้กระทรวงดีอี เป็นศูนย์กลางในการรับเรื่องข่าวปลอมจากทุกหน่วยงานรวมถึงประชาชน และนำส่งกรมประชาสัมพันธ์ ประสานงานหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวปลอม ภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง ภายหลังจากการตรวจสอบแล้ว กรมประชาสัมพันธ์จะเป็นหน่วยงานหลักในการเผยแพร่กระจายข้อมูล ประสานงานสื่อมวลชน และกระทรวงดีอี จะรับผลการดำเนินการดังกล่าว เพื่อแจ้งแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้ดำเนินการปิดกั้นต่อไป

สำหรับประชาชนที่พบเห็นลิงก์หรือข้อมูลซึ่งสงสัยว่าเป็นข่าวปลอม สามารถแจ้งเบาะแสโดยตรง ได้ที่เว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti Fake News Center: AFNC) : www.antifakenewscenter.com

ส่วนการดำเนินคดีกับผู้กระจายข่าวปลอมนั้นได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สำนักงานอัยการสูงสุด เข้าไปดำเนินการจัดการในเรื่องนี้ และเรื่องการปิด IP address ได้มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีผู้ให้บริการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำ IO และดำเนินการตามมาตรการที่เหมาะสม พร้อมรายงานผลต่อที่ประชุมทราบในการประชุมครั้งต่อไป

"เมื่อได้รับข้อมูลข่าวที่น่าสงสัยต้องทำการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นข่าวปลอม ต้องกระจายผลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที พร้อมให้ข้อมูลข่าวที่ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง โดยจะมีการเผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษไปทั่วโลก ผ่านช่องทางกรมประชาสัมพันธ์ และสื่อต่างประเทศด้วยเพื่อให้ทุกหน่วยงานได้รับทราบ" นายประเสริฐ กล่าว

ทั้งนี้จากข้อมูลสถิติของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตั้งแต่เดือน พ.ย.62-31 ก.ค.68 ได้ทำการคัดกรองจำนวนข้อความที่น่าสงสัยและต้องตรวจสอบแล้วกว่า 1,100 ล้านข่าว ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้ในปัจจุบัน ช่วยให้สามารถตรวจสอบได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

"ขอเตือนทั้งสื่อ influencer หรือ ผู้ที่ไม่หวังดีทั้งหลาย ว่ารัฐบาลเอาจริงแน่นอน อยากให้ท่าน post ข้อความต่าง ๆ ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะการนำเสนอข่าวที่บิดเบือน ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง" นายประเสริฐ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ