นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พร้อมด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ และ นายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ ได้ยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้มีการถ่ายทอดการไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พยานบุคคลคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ในวันที่ 21 ส.ค.นี้
นายสมชาย กล่าวว่า คลิปเสียงดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง จนเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตของทั้งทหารและประชาชน และส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นจึงเห็นว่าการไต่สวน น.ส.แพทองธาร จึงควรเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และพวกตนเองจะขอติดตามเข้ารับฟังการไต่สวนเพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการต่าง ๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้แจ้งความดำเนินคดี น.ส.แพทองธาร ไว้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งขณะนี้ได้สอบสวนเรียบร้อยแล้วและส่งเรื่องไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงหวังว่าศาลจะเมตตาให้เข้าฟังในวันไต่สวนและในวันวินิจฉัยเพื่อจะได้นำข้อมูลเพิ่มเติมส่งให้ ป.ป.ช.
นอกจากติดตามการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแล้วจะมีการติดตามต่อไปว่าการดำเนินของ ป.ป.ช.มีการดำเนินการคืบหน้าไปอย่างไร ทั้งกรณีผิดจริยธรรมและกฎหมาย เนื่องจากเห็นว่าเป็นความผิดร้ายแรง ดังนั้น ป.ป.ช.ควรดำเนินการโดยเร็ว เพื่อให้ได้ข้อสรุปและส่งต่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยเร็ว
การที่นายกรัฐมนตรีนำนายฉัตรชัย มาเป็นพยาน อยากให้นายฉัตรชัยคิดว่า น.ส.แพทองธาร เมื่อมาแล้วก็ไป แต่ตำแหน่งเลขาฯ สมช.ต้องดูแลผลประโยชน์ของชาติ ให้การที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็จะเกิดผลเสียกับตนเอง เพราะเห็นว่าความจริงเท่านั้นเป็นคำตอบที่สังคมอยากรู้ ไม่ใช่การไปซักซ้อมพยานที่จะขึ้นให้การ เนื่องจากขณะนี้ตนทราบว่ามีการซักซ้อมพยานเพื่อเตรียมให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญ
นายสมชาย กล่าวว่า ได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกก่อนหน้านี้ตั้งแต่ก่อนแจ้งความดำเนินคดีที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่ลาออก อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ถือว่ายังมีเวลาที่นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจลาออกก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมา เพราะตนเห็นว่าการกระทำของนายกรัฐมนตรีเป็นความผิดชัดเจนที่ไม่อาจกล่าวอ้างได้ว่าบกพร่องโดยสุจริต และเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญก็มีข้อมูลอยู่เป็นจำนวนมากที่จะซักถามนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่าประชาชนทั้ง 65 ล้านคนที่ได้ฟังคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีและสมเด็จฮุน เซน ก็ต้องการฟังคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรีเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ลาออก และจะเดินทางมาเข้าสู่กระบวนการไต่สวนด้วยตัวเอง ตนจึงขอที่จะมารับฟังการไต่สวน และขอให้ศาลถ่ายทอดการไต่สวนเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ