นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.พรรควันนี้ เพื่อพิจารณาเงื่อนไขและข้อเสนอต่าง ๆ ในการสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ยังไม่สามารถมีข้อสรุป โดยได้นัดประชุมกันต่ออีกครั้ง ในเวลา 13.00 น. วันพรุ่งนี้ (2 ก.ย.) เนื่องจากกรรมการบริหารพรรค และ สส.พรรคที่มาร่วมประชุมกว่า 90 คน มีความเห็นที่หลากหลายจากทุกภาคส่วน ไม่ได้จำกัดเฉพาะ สส. ขณะที่ สส.ก็สะท้อนความเห็นจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งตนขอเชิญชวนทุกคนให้มาร่วมแสดงความคิดเห็น
"ช่วงบ่ายพรุ่งนี้จะประชุมต่อ คาดว่าจะมีคนมาร่วมประชุมมากกว่านี้ เพราะวันนี้ บางคนยังติดภารกิจในพื้นที่ บางคนติดประชุม กมธ." นายพริษฐ์ กล่าวโฆษกพรรคประชาชน ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ผู้มีอำนาจไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องเรื่องประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ทำให้พรรคฯ ต้องผลักดันกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อนำไปสู่การยุบสภา เพราะหากไม่ดำเนินการ เกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมา 2 เรื่อง คือ
เรื่องแรก หากพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยกลับมาจับมือกันจัดตั้งเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ก็จะอยู่ยาวอีกเกือบ 2 ปี ซึ่งจะทำให้เกิดความกังวลเหมือน 2 ปีที่ผ่านมาที่ไม่มีผลงาน คดีความต่าง ๆ ไม่มีความคืบหน้า การป้องกันประเทศเสียหาย และการเลือกตั้งจะช้าออกไปอีก 2 ปี
เรื่องต่อมา คือ มีความเสี่ยงที่จะได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากนอกระบอบประชาธิปไตย
ส่วนในวันพรุ่งนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ นายพริษฐ์ ยังไม่รับปาก แต่ยืนยันว่าการพิจารณาจะใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์
"เรื่องเหตุการณ์ในอดีต เราไม่ลืม แต่ไม่เอาอารมณ์มาตัดสิน" นายพริษฐ์ กล่าวส่วนที่มีข่าวพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมลงนามใน MOA นั้นก็ต้องไปถามพรรคภูมิใจไทยเอง พร้อมระบุว่า พรรคประชาชน ได้ออกแบบกลไกที่จะควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยสามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากไม่ดำเนินการตามที่รับปากไว้
"เราไม่ไว้ใจทั้งคู่ ต้องประเมินความเสี่ยง ว่าใครน้อยกว่ากัน ต้องตัดสินใจด้วยเหตุผล ไม่นำเรื่องในอดีตมาพิจารณา" โฆษกพรรคประชาชน กล่าว