พรรคประชาชน จับตาการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะรายชื่อ ว่าที่รมว.ยุติธรรม และว่าที่ รมว.สาธารณสุข ที่อาจสร้างคำถามและข้อกังขาต่อความโปร่งใสของรัฐบาล
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กทักท้วงหลังกรณีปรากฎชื่อพล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ขึ้นมาเป็นรมว.ยุติธรรม เนื่องจาก พล.ต.ท.ชาญชัย ถือเป็นตำรวจสายปราสาทสายฟ้า เติบโตและทำงานในจังหวัดบุรีรัมย์มาโดยตลอด เคยเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ตั้งแต่ปี 2558 และขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ในปี 2562 ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งครอบคลุมหลายจังหวัดในภาคอีสาน รวมถึงบุรีรัมย์
ที่สำคัญ ระหว่างที่พล.ต.ท.ชาญชัย เป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าในขณะนั้นก็คือ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ในยุคนั้น ซึ่งปัจจุบันก็คือ สว.สายสีน้ำเงิน หนึ่งใน 136 คนที่กำลังถูกสอบสวนในคดีฮั้ว สว. 2567
"ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันคณะกรรมการบริหารและเครือข่ายพรรคภูมิใจไทย รวมถึงสว. อย่างน้อย 136 คน กำลังถูกสอบสวนในคดี ฮั้ว สว."โดยอยู่ภายใต้การสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งสังกัดกระทรวงยุติธรรม ดังนั้น หากรมว.ยุติธรรมคนใหม่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ "เจ้าปราสาทสายฟ้า" แห่งบุรีรัมย์ ต่อให้คุณอนุทินออกมายืนยันว่า จะไม่มีการแทรกแซงการสอบสวนคดีฮั้ว สว. ก็คงยากที่ประชาชนจะเชื่อ"
นอกจากนี้ อีกเรื่องที่น่าจับตาคือการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย ต้องย้ำว่า "ครม.อนุทิน1" นี้มีอายุเพียง 4 เดือนเท่านั้น การโยกย้ายข้าราชการแทบไม่มีความจำเป็น หากฝืนทำไป ย่อมถูกมองว่าเป็นการแทรกแซง โดยเฉพาะในประเด็นที่ดินเขากระโดง
นายวิโรจน์ ระบุว่า ตนและเพื่อน ส.ส. พรรคประชาชน จะติดตามตรวจสอบพฤติกรรมและพฤติการณ์ของ ครม.อนุทิน 1 อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบประวัติรัฐมนตรี วามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผลประโยชน์ ธุรกิจสีเทา หรือการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผิดปกติ การจัดซื้อจัดจ้าง มติ ครม. มติของบอร์ดสำคัญ การออกระเบียบ คำสั่ง หรือกฎกระทรวงที่เอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง หากพบเบาะแสหรือพฤติกรรมที่ผิดปกติ เราพร้อมใช้กลไกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อระงับยับยั้งทันที ทั้งการตั้งกระทู้ถามสด การเสนอญัตติด่วน การอภิปรายทั่วไปหรือไม่ไว้วางใจ ไปจนถึงการส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวน
ขณะที่น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ส่วนตัวสนใจอยู่ไม่กี่ชื่อ หนึ่งในนั้นคือ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ ลูกชายของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ว่าที่รมว.สาธารณสุข เหตุเพราะพ่อเป็นไม่ได้เพราะขาดคุณสมบัติจึงส่งต่อให้ลูก (ส่งกันง่ายๆอย่างกับเป็นสมบัติของครอบครัว)
ที่น.ส.รักชนก กล่าวว่า เรื่องความรู้ความสามารถคงไม่ต้องตั้งคำถามกัน เพราะโควต้าส่วนนี้คงไม่ได้เลือกที่ความรู้ความสามารถเป็นหลักอยู่แล้ว แต่ที่น่าสนใจคือ นายพัฒนา เป็นเจ้าของ บริษัท วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน จำกัด ซึ่งเป็นอดีตเจ้าของตึก SKYY9ที่ถือมือแรก ๆ ก่อนจะขายต่อให้คนอื่น
ย้อนกลับไป 20 มี.ค.68 นายพัฒนา ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงปมตึก SKYY9 ยืนยันว่า ตระกูลพร้อมพัฒน์ไม่เกี่ยวขายตึก SKYY9 ให้สำนักงานประกันสังคม
แต่ในอดีต บริษัท วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน ได้ซื้อตึก SKYY9 ซึ่งในขณะนั้นยังใช้ชื่อเดิม ชื่อเดิม Cas Capital หรือ ตึก I.C.E. ซึ่งซื้อมาเมื่อปี 2560 สภาพร้างและทรุดโทรม แต่ "ขอไม่ตอบว่าตอนซื้อตึกในเวลานั้น ซื้อมาราคาเท่าไหร่"
หลังจากรีโนเวทแล้ว ขายต่อให้ บ.เอจีอาอี 101 ในราคาประมาณ 2,000 ล้านบาท ในวันที่ 23 ส.ค.62 ส่วนเปลี่ยนมือซื้อขายให้ใครต่อ ไม่ทราบรายละเอียด แต่ขอไม่แสดงความเห็นกรณีราคาตึก SKYY9 กลายเป็น 7,000 ล้านบาท ไม่ตอบว่าเหมาะสมคุ้มค่าหรือไม่
เป็นที่น่าสนใจ ว่าขายตึกปี 62 ไปในราคา 2,000 ล้านบาท แต่ไม่กี่ปีต่อจากนั้นสำนักงานประกันสังคมในยุคนายสุชาติ ชมกลิ่น อดีต รมว.แรงงาน กลับควักเงินซื้อตั้ง 7,000 ล้านบาท ภายใต้การอำนวยความสะดวกของบริษัท MFC
น.ส.รักชนก กล่าวว่า ครม. ชุดนี้จะมีคนที่เกี่ยวข้องกับตึก SKYY9 เต็มไปหมด แต่ถ้ายังหาคนผิดกันไม่ได้ ประชาชนก็คงตั้งคำถามกับนายกฯ อนุทินว่า ตั้งใจปกป้องคนผิดหรือไม่ ซึ่งการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่น แน่นอนว่าจะสร้างปัญหาให้ตัวนายกฯ และรัฐบาล
"ดังนั้นอยากฝากถึงท่านนายกจงใช้เวลา 4 เดือนให้ดีที่สุดเพื่อลากคอคนผิดมาลงโทษ นอกจากนายกฯ อนุทินก็คงต้องฝาก คุณตรีนุช เทียนทอง ตามโผก็คงเป็นว่าที่ รมว.แรงงาน ดิฉันทราบมาว่ามีการล็อบบี้กันอย่างหนักในคณะกรรมการสอบกรณีตึก SKYY9 ของกระทรวงแรงงาน ทำให้ประธานลาออกไปแล้วคนนึง เกิดสุญญากาศในการสวบสวนต่อเพราะยังทำอะไรกันต่อไม่ได้จนกว่าจะมีรัฐมนตรีตัวจริง"น.ส.รักชนก ระบุว่า จะติดตามการทำงานของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้อย่างใกล้ชิด แม้รัฐบาลมีอายุเพียง 4 เดือน พร้อมเรียกร้องให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องการลงทุนของประกันสังคมอย่างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน