นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ โดยยืนยันว่า จะยุบสภาใน 4 เดือน นับแต่วันแถลงนโยบายรัฐบาล คาดภายในสิ้นเดือนม.ค. 69 เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน เพื่อให้มีการเลือกตั้งภายในมี.ค.69 หนืออย่างช้าต้นเม.ย. 69 ขึ้นกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดต่อไป
นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมครม.นัดพิเศษวันนี้ ได้พิจารณาร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะแถลงในช่วงต้นสัปดาห์หน้า โดยอยู่ระหว่างรอคำยืนยันจากประธานรัฐสภา ซึ่งนโยบายรัฐบาลจะเน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน เศรษฐกิจ มั่นคง ภัยพิบัติ สังคม ได้แก่
- ปัญหาเศรษฐกิจ ลดรายจ่าย ค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ด้วยโครงการ "คนละครึ่ง" ลดค่าเดินทาง ค่าขนส่ง และค่าพลังงาน สนับสนุนให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทนได้มากขึ้น สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น
- ปัญหาความมั่นคง กรณีพิพาท ไทย-กัมพูชา รัฐบาลจะดำเนินมาตรการทางการทูตควบคู่มาตรการทางทหาร เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศไทย และรักษาประโยชน์ของประชาชนไทย
- ปัญหาภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ นอกจากจะต้องเร่งรัดทำระบบเตือนภัย ป้องกันภัย จะต้องปรับปรุงระบบ มาตรการการดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ ซึ่งจะต้องแก้กฎระเบียบ หลักเกณฑ์ต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการได้สะดวก คล่องตัว แก้ปัญหาให้ประชาชนเร็วที่สุด และถูกต้องตามกฎหมาย ป้องกันการรั่วไหลหรือการทุจริตคอร์รัปชัน
- ปัญหาภัยสังคม รัฐบาลจะดำเนินการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด การพนัน การพนันออนไลน์ สแกมเมอร์ เครือข่ายฉ้อโกงประชาชนขนาดใหญ่ที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก และเป็นภัยทางเศรษฐกิจอย่างจริงจัง รวมทั้ง ดำเนินการทางวินัยและกฎหมายกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างเด็ดขาด โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน แล้วตามด้วยการดำเนินคดีอาญาทุกกรณี
"รัฐบาลยืนยันไม่สนับสนุนธุรกิจการพนันทุกรูปแบบ ไม่มี Entertainment Complex แบบมีกาสิโน และไม่อนุญาตให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย" นายกรัฐมนตรี กล่าวนอกจากนั้น รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะราคาข้าว ราคามันสำปะหลัง และสินค้าเกษตรอีกหลายชนิด โดยจะมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ย พร้อมดำเนินการป้องกัน ปราบปราม ขบวนการลักลอบนำผลผลิตการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าประเทศไทยอย่างไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้าเกษตรในประเทศตกต่ำ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพการผลิตภาคเกษตรให้เป็นเกษตรอัจฉริยะ
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า รัฐบาลจะจัดทำระบบสาธารณสุข ให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยเข้าถึงได้อย่างทั่วถึงและสะดวกที่สุด และปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษา พร้อมเดินหน้าเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทย เข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก
นอกจากนี้ รัฐบาลจะจัดให้มีการทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ในวันที่มีการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปครั้งหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะยุบสภาผู้แทนราษฎร ภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันแถลงนโยบายรัฐบาล ต่อรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะยุบสภาฯ ภายในเดือนมกราคม 2569 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ภายในเดือนมีนาคม 2569 หรืออย่างช้าต้นเดือนเมษายน 2569 ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะได้กำหนดต่อไป
พร้อมกันนี้ ยังได้กำหนดแนวทางการประชุมครม. รวมถึงปรับกรอบการทำงานให้ทุกหน่วยงานเร่งรัด ลดขั้นตอนซ้ำซ้อน แต่ยังคงความถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยครม.ทุกคนต้องพร้อมทำงานตลอดเวลาสัปดาห์ละ 7 วัน ซึ่งจะเป็นการทำงานมิติใหม่ และการประชุมครม.อาจจะมีมากกว่าสัปดาห์ละ 1 วัน ในกรณีที่มีความจำเป็น เพราะปัญหาของประเทศไม่สามารถรอได้
"คณะรัฐมนตรีพร้อมที่จะมุ่งมั่น ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ และสติปัญญาอย่างเต็มที่ เพื่อปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินอย่างดีที่สุด เพื่อตอบสนองประโยชน์สุขให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป" นายกรัฐมนตรี กล่าว