นายกฯ ย้ำรัฐบาลเฉพาะกิจ 4 เดือนแก้ปัญหาจากรัฐบาลก่อน เชื่อมือทีมครม.

ข่าวการเมือง Monday September 29, 2025 13:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฯ ย้ำรัฐบาลเฉพาะกิจ 4 เดือนแก้ปัญหาจากรัฐบาลก่อน เชื่อมือทีมครม.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ชี้แจงการอภิปรายของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย โดยยืนยันว่า นโยบายของรัฐบาลสามารถ "ทำได้จริง" เพราะผ่านการกลั่นกรองมาแล้วว่าสามารถทำได้ และ"ทำเป็น" เพราะในคณะรัฐมนตรีที่ได้คัดสรรมา ล้วนแต่เป็นคนที่มีประสบการณ์ในวิชาชีพทุก ๆ ด้าน แม้กระทั่งผู้ที่ไม่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาก่อน ตนก็ได้ตรวจสอบประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน พฤติกรรม ซึ่งสามารถยืนยันว่า ทุกคนมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชน

ส่วนที่มีหลายคนพูดว่ารัฐบาลนี้ขาดคนมีฝีมือนั้น ตนเชื่อมั่นว่าทุกคนที่อยู่ในรัฐบาลนี้ตนคัดเลือกเอง และสิ่งที่สำคัญที่สุดนอกจากเรื่องของคุณงามความดีที่แต่ละคนได้มีความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชนและผลงานความรู้ประสบการณ์รัฐบาล 4 เดือนนี้เต็มไปด้วยบุคคลที่มีฝีมือ มีความรู้ความสามารถ และประสบความสำเร็จในในชีวิต

ขณะนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่รัฐบาลจะแสดงผลงาน เพราะรัฐบาลนี้ได้ทำความเข้าใจกับรัฐมนตรีทุกคนแล้วว่า ไม่มีคำว่า คนละพรรค เพราะนี่คือ พรรครัฐบาล ไม่มีขัดแข้งขัดขา ไม่มีความกังวลใด ๆ ว่า พรรคไหนทำอะไรแล้วได้รับความนิยมจากประชาชนมากกว่า

"อย่างน้อยนายกรัฐมนตรีคนนี้จะไม่มีใครมาบงการได้ และตัดสินใจเอง คิดเอง และหารือกับคณะรัฐมนตรีทั้งหมด หารือกับบรรดาสมาชิกสภาทั้งหมด ในการตัดสินใจทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและประชาชน"นายอนุทิน กล่าว

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ทุกนโยบายและการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและระเบียบที่ถูกต้อง โดยรัฐบาลพร้อมเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายสามารถเข้ามาตรวจสอบได้อย่างตรงไปตรงมา

สำหรับแนวทางการทำงานทางการเมืองของรัฐบาลนั้น รัฐบาลจะทำงานร่วมกับสมาชิกรัฐสภาทุกคน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน พร้อมยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคนในรัฐบาลชุดนี้ทำงานโดยอิสระ ไม่อยู่ภายใต้การบงการจากใคร นอกจากนั้น ลักษณะของรัฐบาลปัจจุบัน นับว่าเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่เข้ามาแก้ไขปัญหาและความเสียหายของประเทศที่เกิดจากรัฐบาลที่แล้ว โดยมีกรอบเวลาที่ชัดเจนว่าจะยุบสภาตามข้อตกลง (MOA) เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน

"ขอนับวันที่ 1 ตุลาคมเป็นวันแรก แล้วนับไป 4 เดือนก็คือวันที่ 31 มกราคม ยุบสภาแน่นอน ถือเป็นพันธะระหว่างพรรคที่ลงนามใน MOA กับทางพรรคประชาชน" นายอนุทิน กล่าว

ตนเห็นพ้องกับทางพรรคประชาชน เมื่อถึงเวลาอันสมควรต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน สิ่งที่ตนจะทำให้สำเร็จคือการเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่ต้องเข้ามาแก้ไขความเสียหายของประเทศที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลที่แล้วมา ตนยอมรับในสภาพนี้และคณะรัฐมนตรีของตนอีก 35 คนจะทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อเรียกความเสียหาย ความสูญเสีย ในเรื่องเกียรติภูมิของประเทศ เศรษฐกิจ ขวัญกำลังใจ และความปลอดภัยของประชาชนกลับมาสู่ประเทศไทยและคนไทยให้ได้ ในระยะเวลาที่ตนทำงานอยู่ 4 เดือน และมั่นใจว่า ทำได้เพราะได้เตรียมการเรื่องนี้มาพอสมควรแล้ว

ขณะที่การพูดถึงเรื่องผลประโยชน์ส่วนใหญ่ในนโยบายของรัฐบาลนี้ไม่ตรงความต้องการของประชาชน ตนมองต่างเพราะรัฐบาลนี้ยกเลิกคาสิโน ยกเลิกเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ไม่เอาเงินดิจิทัล 10,000 บาทไปให้ประชาชนเฉย ๆ แต่เราใช้วิธีการแบบมีส่วนร่วม ไม่มอมเมาประชาชนด้วยการพนัน ไม่ขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วยธุรกิจการพนัน ซึ่งตนมั่นใจว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นตรงกับรัฐบาลชุดนี้ นี่คือเหตุผลหนึ่งที่พรรคของตนถูกเชิญออกจากรัฐบาล เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพราะพรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาลในขณะนั้น

ทั้งนี้ ตนขอชื่นชมกับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ถือเป็นนโยบายที่มีคุณประโยชน์กับคนไทยมหาศาลตราบจนถึงปัจจุบัน แต่โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่เป็นผลงานของตนทำมาตั้งแต่สมัยอยู่กระทรวงสาธารณสุข 4 ปี ตนเป็น รมว.สาธารณสุขที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในการทำงานของรัฐมนตรีหลาย 10 คนที่ผ่านมา เรื่องเหล่านี้ได้ใช้เวลาทั้ง 4 ปี ประสานงานกับหลายหน่วยงาน รวมถึงให้มีโครงการฟอกไตฟรี ซึ่งตนจะนำกลับมาในรัฐบาลของตนอีกครั้ง ซึ่งนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข จะต้องทำให้เห็นภายใน 2 เดือนหรือสั้นกว่านั้น ไม่เช่นนั้นตนจะดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขเอง

อย่างไรก็ตาม ตนเคยอยู่ในรัฐบาลเดียวกับ นพ.ชลน่าน พยายามทำงานสนองนโยบาย ยกเว้นเรื่องที่ต้องไปแตะกับความมั่นคงของประเทศ รวมถึงความเสียหายของประเทศ และคุณภาพของประชาชน ตนจึงต้องตัดสินใจที่จะไม่ร่วมนโยบายนี้ และถือว่าเป็นเกียรติที่ถูกเชิญออกมา และขอยืนยันว่า นโยบายและการกระทำของรัฐบาลชุดนี้ และรัฐมนตรีทุกคนที่ทำงานอย่างหนักจะผลักดันทุกนโยบายให้เป็นทางออกของประเทศ

นายอนุทิน ยังย้อนคำพูดเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ตนได้อยู่ในคณะรัฐบาลซึ่งมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น ซึ่งหลายคนยอมรับ ทำความเจริญมากมายให้กับประเทศ ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรีมีแต่การพูดถึงปัญหาให้คณะรัฐมนตรีฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำ ขณะนั้นตนดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายทักษิณมักไม่พอใจที่คณะรัฐมนตรีที่นำเอาปัญหามาเป็นข้อแก้ตัวในการทำงาน ซึ่งตั้งแต่วันนั้นมาบอกกับตัวเองว่า จะไม่มีวันให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับตน ถ้าตนต้องทำงานไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือทำงานที่ไหนก็ตาม

นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อมีปัญหาเช่นนี้ นายทักษิณจะปิดไมค์รัฐมนตรีคนนั้นและพูดว่าจำไว้นะ " loser see problem in every solution" ซึ่งแปลว่า "จำไว้นะ ผู้แพ้จะเห็นปัญหาในทุกทางออก" และ "winner see solution in every problem" ซึ่งแปลว่า "ผู้ชนะจะเห็นทางออกในทุกปัญหา" ตนและคณะรัฐมนตรีทั้ง 36 คนเป็นอย่างหลัง ชนะหรือไม่ ไม่รู้ แต่พวกตนเห็นทางออกในทุกปัญหา ถือเป็นเจตนารมย์อันแน่วแน่ของรัฐบาลชุดนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ