ไทย-กัมพูชา: "ปานเทพ" ยื่นหนังสือนายกฯ จี้ยกเลิก MOU43-44 ระงับประชุม JBC-GBC-RBC

ข่าวการเมือง Tuesday October 14, 2025 11:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ไทย-กัมพูชา:

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานกรรมการมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมด้วย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ยื่นหนังสือต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ขอให้ยกเลิก MOU43 เนื่องจากประเทศกัมพูชาละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 60 และให้ยกเลิก MOU44 เนื่องจากเป็นข้อตกลงชั่วคราวที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริงตามมาตรา 56 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1969

นายปานเทพ กล่าวว่า ตามที่ประเทศกัมพูชาได้กระทำการละเมิดบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำเขตหลักเขตแดนทางบก MOU43 อย่างร้ายแรง ทำการรุกรานโดยการใช้อาวุธสงครามและใช้กำลังทหารเข้าล่วงล้ำดินแดนไทย มีเจตนาใช้อาวุธปืนใหญ่และจรวด BM.21 ยิงใส่ในพื้นที่ของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ทำให้โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และบ้านเรือนเสียหาย มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและล้มตาย ทรัพย์สินของทางราชการและประชาชนเสียหายทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่พื้นที่บริเวณแนวชายแดน

นอกจากนี้ ยังมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล จนทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บ พิการ และล้มตาย ในระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค. 68 ด้วยเหตุที่กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดรุกรานประเทศไทยจนเป็นที่ประจักษ์ จึงเป็นการละเมิดข้อ 8 และ 3 ของข้อ 3 และข้อ 5 ของ MOU43 อย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ ประเทศไทยจึงมีสิทธิยกเลิกได้ตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1969 มาตรา 60 ได้กำหนดเหตุแห่งการยกเลิกสนธิสัญญาไว้ว่า "...การฝ่าฝืนสนธิสัญญาอย่างร้ายแรงโดยรัฐภาคีฝ่ายหนึ่ง หรือรัฐใดรัฐหนึ่ง (material breach) เป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งหรือรัฐภาคีอื่นยกเป็นเหตุเพื่อเลิกหรือระงับการใช้บังคับของสนธิสัญญาได้ เมื่อปรากฏการละเมิด..."

อย่างไรก็ตาม การยกเลิก MOU43 โดยอาศัยมาตรา 60 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1969 จะต้องแสดงความตระหนักเพื่อรักษาสิทธิในนามรัฐบาลไทยโดยทันที ไม่ใช่การแสดงความลังเลสงสัยด้วยการออกเสียงประชามติหรือความสัมพันธ์ดีขึ้น หรือกลับไปประชุมใด ๆ ที่เป็นการแสดงออกเสมือนว่าไม่ได้มีการละเมิดร้ายแรง หรือเสมือนว่ายอมรับ MOU43 เหมือนเดิม อันอาจจะทำให้ประเทศไทยเสียสิทธิการใช้มาตรา 60 ตามข้อจำกัดในมาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1968

ดังนั้น จึงขอให้ประกาศยกเลิก MOU43 โดยทันที และแจ้งให้รัฐบาลกัมพูชาได้ทราบตามมาตรา 65 และให้มีผลการยกเลิกในอีก 8 เดือนข้างหน้า เป็นการรักษาสิทธิในการยกเลิกเพื่อรอการออกเสียงประชามติอีกครั้งหนึ่ง โดยในระหว่างนี้จะทำให้การเจรจาใด ๆ ภายใต้กลไกของ คณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC), คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ต้องไม่กระทบสิทธิของไทยในการยกเลิก MOU43

ส่วน MOU44 การเจรจาไม่สามารถคืบหน้าได้ตลอดระยะเวลา 24 ปีที่ผ่านมา เป็นผลส่วนหนึ่งของการจัดทำเขตแดนทางบกตาม MOU43 ไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักเขตที่ 73 ซึ่งเป็นหลักจุดเริ่มต้นการแบ่งเขตทางทะเลยังไม่แล้วเสร็จ โดยประเทศกัมพูชายึดเส้นไหล่ทวีปที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล และกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้พื้นที่อ้างสิทธิไหล่ทวีปใหญ่เกินจริง ละเมิดอธิปไตยของประเทศไทยและเกินสิทธิของประเทศกัมพูชา ประกอบกับพื้นที่ที่อ้างว่าจะไปพัฒนาร่วมนั้น ยังเป็นพื้นที่อ้างเกินสิทธิของประเทศกัมพูชาและยังเป็นพื้นที่ตายตัวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ขัดประกาศพระบรมราชโองการกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย ลงวันที่ 18 พ.ค. 2516 และขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพราะผู้ไปเจรจาไม่มีอำนาจในการเจรจากำหนดเขตพัฒนาร่วมตายตัวได้เช่นนี้ ดังนั้น MOU44 ซึ่งเป็นข้อตกลงชั่วคราวที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง ประเทศไทยจึงมีสิทธิยกเลิก MOU44 ตามมาตรา 56 ของอนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1969

ดังนั้น จึงขอให้นายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ไม่ให้ประเทศไทยเสียสิทธิและความชอบธรรมในการยกเลิกสนธิสัญญาตามอนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1969 ในระหว่างนี้ให้สั่งการระงับการประชุม JBC GBC และ RBC ไว้ก่อน จนกว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีมติดังต่อไป

โดยให้ยกเลิก MOU43 ทันที โดยอ้างเหตุแห่งการที่ประเทศกัมพูชาละเมิดร้ายแรงตามมาตรา 60 ของอนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1969 เพื่อไม่ให้เสียสิทธิตามมาตรา 45 โดยให้มีผลบังคับใช้ในอีก 8 เดือนข้างหน้า ตามมาตรา 65 ของอนุสัญญาเดียวกัน และยกเลิก MOU44 ทันที โดยอ้างเหตุข้อตกลงชั่วคราวที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง และให้มีผลบังคับใช้ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ตามหลักการของมาตรา 56 ของอนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1969

ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวสั้น ๆ ภายหลังรับหนังสือเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการต่อไป ว่า "ขอไปศึกษารายละเอียดก่อน" จากนั้นได้เดินไปเข้าร่วมการประชุมครม. ทันที


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ