นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความชัดเจนในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญวันที่ 8-10 ธ.ค. 68 เพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ยังไม่แน่นอน เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว และทุกฝ่ายอยากจะเห็นการลงมติในวาระที่ 3 ก่อนช่วงปีใหม่ ก็จำเป็นจะต้องเปิดการประชุมสมัยวิสามัญ ซึ่งสามารถเปิดก่อนสมัยสามัญทั่วไป 1-2 วันได้ เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่าการลงมติในวาระที่ 2 เรียบร้อยแล้ว และก่อนที่จะลงมติในวาระที่ 3 ต้องรอ 15 วัน
ดังนั้น ถ้ารอเปิดสมัยประชุมวิสามัญทั่วไปในวันที่ 12 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันศุกร์ตามปกติประธานสภาผู้แทนราษฎรจะไม่รับ แต่พอวันที่ 16 ธ.ค. นับไป 15 วัน จะตรงกับวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งตรงกับวันหยุด ทำให้ไม่สามารถพิจารณาแล้วเสร็จได้ทันก่อนช่วงปีใหม่ได้ ถ้าทุกฝ่ายเห็นว่าควรจะแล้วเสร็จก่อนปีใหม่ในการลงมติวาระ 3 ก็จำเป็นจะต้องเปิดในสมัยประชุมวิสามัญ
ส่วนจะต้องให้สภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ชงให้เปิดสมัยประชุมวิสามัญหรือไม่นั้น นายภราดร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี จะต้องแจ้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ ครม. เสนอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ
เมื่อถามว่าในคณะกรรมาธิการมีการพูดคุยกันหรือไม่ เนื่องจากเมื่อวานนี้ (5 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีมีการพูดเรื่องยุบสภา อาจทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ นายภราดร กล่าวว่า "หากทุกอย่างจะถูกล้มเลิก ที่ทำมาทั้งหมดก็ล้ม ต้องภาวนาไม่ให้เกิดตรงนั้น"
พร้อมกล่าว ขณะนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เชื่อว่าเวลาอีก 1-2 เดือนนี้ สิ่งที่ฝ่ายการเมืองจะต้องตระหนักให้ดี คือหมุดหมายจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ เดินหน้าสู่การทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นอุปสรรคใดที่จะทำให้รัฐธรรมนูญไม่เดินไปสู่เป้าหมาย ก็ต้องช่วยกันพิจารณา
ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภา จะถูกมองว่าละเมิด MOA ไม่ได้ใช่หรือไม่ หากมีผู้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายภราดร กล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีใครยื่นซักฟอก เพราะที่เท่าที่คุยกันในกรรมาธิการก็เห็นตรงกันว่าอยากเดินหน้าไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และทุกฝ่ายก็รู้ว่าเมื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ บทสรุปคืออะไร
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยบอกว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็มีโอกาสที่อาจไม่ยื่นได้นั้น นายภราดร กล่าวว่า เท่าที่พูดคุยเป็นรายบุคคล ไม่ใช่การพูดคุยในนามพรรค ทุกคนเข้าใจตรงกันว่าหมุดหมายสำคัญ คือ การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ส่วนอำนาจการยุบสภาของนายกรัฐมนตรีจะสิ้นสุดเมื่อใด หลังการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายภราดร กล่าวว่า อำนาจการยุบสภาจะสิ้นสุดลงหลังประธานสภาฯ บรรจุระเบียบวาระ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่เป็นประธาน จะตรวจสอบญัตติอย่างถี่ถ้วนถึงความถูกต้อง ทั้งข้อความ และรายชื่ออย่างครั้งที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับและกฎระเบียบ