นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล โดยไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะรับมือกับสถานการณ์ได้ ทั้ง ๆ ที่ปริมาณน้ำปีนี้น้อยกว่าปี 54 ถึง 20% โดยรู้สึกสงสารชาวภาคกลางที่จมน้ำมาถึง 4 เดือน โดยระบุ 8 เหตุผลว่ามาจากความประมาท ขาดเอกภาพ ไปจนถึงการโยกย้ายทำให้การบริหารงานขาดประสิทธิภาพ ได้แก่
1. ฝนปีนี้มาช้าแต่ก็ลากยาวมาจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน และแถมพายุฤดูร้อนอีก 1 ลูก
2. ฝนตกหนักซ้ำซากในลุ่มน้ำยม จึงเกิดน้ำท่วมที่จังหวัดสุโขทัย พิจิตรอย่างต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้ ลักษณะการท่วมเป็นทุ่งน้ำใหญ่ซึ่งหมายถึงการหน่วงน้ำ ทำให้เมื่อน้ำลงมาถึงกรุงเทพฯ ก็เป็นช่วงน้ำทะเลขึ้นสูงสุดเสียแล้ว
3. เขื่อนใหญ่ของประเทศ 4 เขื่อน น้ำเต็ม 100% ดังนั้นจึงต้องระบายออกรวมวันละประมาณ 200 ล้านลบม. และน้ำล้นชุดนี้จะมาถึงกรุงเทพฯ ในอีก 15 วันข้างหน้า ซึ่งก็จะเป็นช่วงน้ำทะเลยังหนุนสูงอยู่ จึงยังคงระบายน้ำไม่ได้
4. ด้วยเหตุผลอะไรไม่กระจ่าง กรมชลประทานไม่ยอมระบายน้ำเข้าทุ่งตะวันออกตามแนวคลองชัยนาท-ป่าสักเข้าทุ่งลพบุรี จนชาวบ้านต้องออกมาปิดถนนจึงยอม
5. เพราะการสื่อสารที่ผิดพลาดว่าน้ำไม่มาก ทำให้หน่วยงานในพื้นที่ ทุกระดับ สร้างผนังกั้นน้ำที่ไม่แข็งแรง ครั้นเมื่อน้ำกลายเป็นมาก ผนังรับแรงไม่ได้ จึงพังทลายหลายจุด โดยเฉพาะในจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยา
6. รัฐบาลประมาทเรื่องน้ำ และขาดเอกภาพในการบริหารจัดการน้ำ แทนที่จะเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูแลเรื่องน้ำ กลับมอบให้ รมต. สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบสั่งการ ซึ่งถูกวิจารณ์ว่า "เอาแต่พวก"
7. ผู้ว่าราชการจังหวัดและอธิบดีกรมที่เกี่ยวกับน้ำ เพิ่งมีการโยกย้ายจากการล้างแค้นทางการเมือง ทำให้การบริหารจัดการเรื่องน้ำขาดประสิทธิภาพ
8. รัฐบาลเน้นนโยบายหาเสียง เน้นการจ่ายเงินเยียวยา แทนที่จะใช้งบประมาณเพื่อป้องกันน้ำท่วม ชาวบ้านได้ประกาศชัดเจนว่า ไม่ต้องการเงิน แต่ต้องการให้ระบายน้ำเพราะชีวิตยากลำบากมาก เงินที่ได้มาไม่คุ้มค่าคุณภาพชีวิตที่เสียไป
"ผู้ที่จะต้องรับผิดชอบมากที่สุด สำหรับความล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำในปีนี้ ก็คือ คณะคสช. เพราะได้ยกเลิกโครงการบริหารจัดการน้ำ 3 แสนล้านบาทในสมัยรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และยังทิ้งข้อสงสัยไว้อีกว่า เงิน 3 แสนล้านบาทนั้น มันหายไปไหน ส่วนรัฐบาลปัจจุบันข้อบกพร่องก็คือ ให้ความสำคัญเรื่องน้ำน้อยกว่าเรื่องชายแดน และเรื่องสแกมเมอร์ ทั้ง ๆ ที่พื้นที่น้ำท่วมครั้งนี้มีมากถึง 3 ล้านไร่ และมีประชาชนเดือดร้อนมากกว่า 20 ล้านคน แถมมีคนเสียชีวิตไปเพราะน้ำท่วมมากกว่า 20 คน และต้องอพยพอีกหลายหมื่นคน เหตุการณ์แบบนี้มันต่างกับสงครามอย่างไร?" นายปลอดประสพ ตั้งคำถามในท้ายสุด